โวยค่าเทอมแพงแบ่ง นักเรียนรวย-จน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
โวยค่าเทอมแพงแบ่ง นร.รวย-จนเมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 5 ต.ค. ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสยุมพรกุลสุ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมฯ ได้รับการร้องเรียนจากนายสุเทพ ปานกลิ่น อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่35 หมู่ 1 ต.เกาะเกิด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน ร.ร.วัดชุมพลนิกายาราม ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน กว่า 10 คนว่า ทางโรงเรียนได้เรียกเก็บค่าเทอมจำนวนมาก หากไม่มีเงินลูกหลานต้องไปเรียนห้องท้ายๆจนเกิดความเหลื่อมล้ำทั้งเด็กและผู้ปกครอง
นายสุเทพเปิดเผยว่า ทางโรงเรียนได้แบ่งห้องเรียนระหว่างคนจนกับคนรวย และระบบการเรียนการสอนแตกต่างกันจนเกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างเห็นได้ชัด ทั้งๆที่เป็นโรงเรียนรัฐบาล สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาผู้ปกครอง และได้รวมตัวประท้วงนายผดุงศักดิ์ หงส์ทอง ผอ.ร.ร.วัดชุมพลนิกายาราม เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมาโดยทางโรงเรียนได้เรียกเก็บเงินจากผู้ปกครอง (คนรวย) ที่ประสงค์ให้บุตรหลานเรียนชั้นอนุบาล 1/1 เป็นเงิน 4,000 บาท ชั้น ป.1/1 เป็นเงิน 8,000 บาท ชั้น ป.1-6 เรียนห้อง 2 เก็บเงิน 1,500 บาท ส่วนคนจนไม่มีเงินจ่ายให้ไปเรียนห้อง 3 อุปกรณ์การเรียน รวมทั้งครูผู้สอนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ผู้ปกครองเคยไปร้องเรียนที่เขตการศึกษา จ.พระนครศรีอยุธยา แต่เรื่องก็เงียบหายไป
นางสมใจ เฉลยศิลป์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/3 หมู่ 12 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า มีอาชีพขายพวงมาลัยหาเช้า กินค่ำ และรับผิดชอบต้องส่งหลานเรียนอยู่ชั้น ป.5 ห้อง 3 ตนไม่มีเงินเสียค่าเทอมราคาแพง หลานจึงต้องมาเรียนในห้องท้ายๆ ก่อนหน้านี้มีครูอัตราจ้างมาสอนนานกว่า 10 ปี ทำให้เด็กนักเรียนอ่านออกเขียนได้ จนเป็นที่รักของเด็กและผู้ปกครอง แต่ถูกทางโรงเรียนไล่ออกกะทันหันแล้วนำครูบรรจุใหม่มาสอนแทน นอกจากนี้ ทางโรงเรียนได้เปิดประมูลร้านค้าราคาแพงๆและนำอาหารมาขายให้เด็ก อาทิ เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด น้ำดื่มโออิชิ กำหนดประชุมผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 1-ประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 และให้ชำระค่าบำรุงการศึกษาก่อน วันที่ 1พ.ย.นี้
ทางด้าน น.ส.กาญจนา ดวงอาทิตย์ รองผอ.ร.ร.วัดชุมพลนิกายาราม กล่าวว่า ได้เก็บเงินค่าบำรุงการศึกษาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเรียนการสอนนอกหลักสูตร โดยได้ว่าจ้างครูต่างประเทศมาสอนภาษาอังกฤษเดือนละ 45,000 บาท และเก็บเทอมละ 8,000 บาทซึ่งยังน้อยมาก ทางฝ่ายบริหารโรงเรียนอยากขับเคลื่อนให้เด็กนักเรียนมีการศึกษาทัดเทียมกับโรงเรียนอื่นๆ ส่วนเรื่องการปลดครูอัตราจ้างที่สอนมากว่า 10 ปีนั้นเพราะปีนี้มีครูเกษียณอายุเป็นจำนวนมาก ครูอัตราจ้างมาขวางการบรรจุแต่งตั้งครูตัวจริง ทางโรงเรียนอยากได้ครูที่กระทรวงส่งมาเพื่อไปทดแทน
ขณะที่กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนได้ร่วมกันลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานและนัดมารับฟังความคืบหน้าภายใน 15 วัน เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ก่อนที่จะแยกย้ายกลับไปในที่สุด.
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 6 ต.ค. 2558 07:55 น.