สกศ.เปิดผลวิจัยสภาวะการศึกษาไทยปี 57-58

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์
ก-
ก+
สกศ.เผยผลวิจัยสภาวะการศึกษาไทยปี 57-58 ค้นหาจุดอ่อน-จุดแข็ง เพื่อปฎิรูปการศึกษา แนะยุบสถาบันผลิตครูเหลือ5แห่ง ผ่าตัดโครงสร้างการบริหาร ตั้งคณะกรรมการปฎิรูปการศึกษาที่มีอำนาจเต็ม สั่ง รมว.ศธ.ได้
วันนี้ (29 ก.ย.) ที่โรงแรมปริ๊นพาเลซ มหานาค สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) จัดสัมมนาเรื่อง “สภาวะการศึกษาไทย ปี 2557-2558 โดย ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน เลขาธิการ สกศ. กล่าวว่า สกศ.จัดเสวนาครั้งนี้เพื่อนำเสนอรายงานสภาวะการศึกษาและความเคลื่อนไหวทางการศึกษาของไทยตั้งแต่ปี 2557-2558 ในภาพรวมระดับประเทศ รวมทั้งวิเคราะห์ถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของการพัฒนาการศึกษา เพื่อสะท้อนให้เห็นภาพใหญ่การศึกษาที่แท้จริงของประเทศไทย ซึ่งการกำหนดนโยบายและแผนการศึกษาของชาติจำเป็นต้องใช้ข้อมูลสถิติและสารสนเทศเพื่อศึกษาวิเคราะห์แนวโน้มสภาวะการศึกษาของประเทศไทยและของโลก ซึ่งจะทำให้จัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้แก่คนไทยทุกช่วงวัย
ด้าน รศ.วิทยากร เชียงกูล คณบดีกิตติคุณวิทยาลัยนวัตนกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ได้นำเสนอรายงานวิจัยเรื่อง"จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ก้าวทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร " ว่า การปฏิรูปการศึกษาไทยให้ก้าวทันโลกมีแนวทางสำคัญ 3 ด้าน คือ 1.ปฏิรูปครู ผู้บริหาร 2.ปฏิรูปหลักสูตร วิธีการสอน และวิธีวัดผล และ 3.ปฏิรูปโครงสร้างการบริหารจัดการ ซึ่งการวิจัยพบว่า ไทยใช้จ่ายงบประมาณด้านการศึกษาสูงมาก แต่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กกลับไม่ดีเท่าที่ควร ขณะที่ปัญหาเด็กออกกลางคันมีสัดส่วนสูงขึ้น ภาครัฐควรแก้ปัญหานี้ให้ตรงจุด และต้องหาวิธีการดึงเด็กให้เข้าสู่ระบบทางการศึกษาในรูปแบบอื่นให้ได้ นอกจากนี้การสอนแบบท่องจำถือเป็นการเรียนแบบเก่าล้าหลัง โลกสมัยใหม่เน้นการใช้ความรู้ความรู้ทักษะที่คิดวิเคราะห์เป็น มีจินตนาการ และเรียนรู้อะไรใหม่ๆได้ดี ปรับตัวเก่ง แก้ปัญหาเก่ง รศ.วิทยากร กล่าวต่อไปว่า การปฏิรูปครู อาจารย์ที่สำคัญ คือ ควรยุบคณะสาขาวิชาที่ผลิตครู ซึ่งมีอยู่ 103 แห่งให้เหลือน้อยลง คัดเลือกเฉพาะคณะสาขาที่มีคุณภาพสูงมาเป็นสถาบันฝึกหัดครู 5 แห่ง โดยคัดเลือกนักศึกษาที่เรียนเก่ง ตั้งใจเป็นครูมาเรียน มีทุนการศึกษาให้ และมีตำแหน่งงานให้เมื่อเรียนจบ ได้เงินเดือนสูง และต้องผ่าตัดโครงสร้างการบริหาร โดยจัดตั้งคณะกรรมการปฎิรูปการศึกษาที่มาจากผู้ทรงคุณวุฒิมีอำนาจเต็มในการวางแผนพัฒนาการศึกษาชาติ ที่ต้องให้รมว.ศึกษาธิการ และข้าราชการทำตาม.
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอังคารที่ 29 กันยายน 2558 เวลา 14.00 น.