"ดาว์พงษ์"ขู่ผอ.สพท.ไม่ร่วมมือ"เจอเด้ง!"
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
"ดาว์พงษ์"ขู่ผอ.สพท.ไม่ร่วมมือ"เจอเด้ง!""บิ๊กหนุ่ย" ส่งสัญญาณ ผอ.สพท.ทั่วประเทศ หากเขตพื้นที่ฯ ใดไม่เล่นด้วย ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สนับสนุนการปฏิรูปการศึกษา ก็ต้องไปที่อื่น พร้อมมอบนโยบายดูเกณฑ์เลื่อนวิทยฐานะรอง ผอ.เขตฯ ชี้ที่ผ่านมา ผอ.เขตฯ ได้หน้าทั้งที่รอง ผอ.เป็นคนทำงาน
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาการกำหนดแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานในระดับเขตพื้นที่การศึกษา โดยมีรองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวเปิดสัมมนาตอนหนึ่งว่า ช่วงเวลานี้เป็นยุคของการปฏิรูปประเทศ ซึ่งการศึกษาเป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญ ต้องมีการขับเคลื่อนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เพราะว่าการศึกษาถือเป็นฐานของการพัฒนาชาติ ดังนั้น ศธ.และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเขตพื้นที่ฯ จะต้องทำงานแบบมีจุดเน้น โดยเฉพาะการบริหารงานต้องมีประสิทธิภาพ
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวต่อว่า ตนเข้าใจดีว่าหลายคนอาจจะเป็นกังวล เนื่องจากตนที่เป็นทหารมาดำรงตำแหน่ง รมว.ศธ. จะเข้ามารื้อระบบอะไรหรือไม่นั้น ตนจะไม่มาปรับเปลี่ยนอะไรภายใน ศธ. แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือแก้ปัญหาอะไร ก็จะต้องคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนอย่างแน่นอน เพื่อให้การปรับแก้ปัญหามีความยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับ แน่นอนว่าก่อนที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้ ตนได้ศึกษาข้อมูลเป็นอย่างดี ประกอบกับการมีจิตวิญญาณของความเป็นครู และความมุ่งมั่นที่จะเข้ามาขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษาให้เดินหน้าตามนโยบายของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม เสียงสะท้อนที่มาจากบุคคลคนภายนอกเกี่ยวกับการทำงานของ ศธ. ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของปัญหาการทุจริต การโยกย้ายข้าราชการ ส่วนกลางทำโครงการไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ผอ.เขตพื้นที่ฯ ไม่ให้ความสำคัญกับการศึกษาเต็มที่ โรงเรียนต้องรับการประเมินจากภายนอกหลายหน่วยงานจนกระทบการสอนของครู ผอ.โรงเรียนมุ่งบริหารงานเพื่อต้องการรางวัลโดยไม่มองที่ตัวเด็ก และครูมีเทคนิคการสอนไม่ครอบคลุม ซึ่งตนไม่อยากให้คนอื่นมององค์กรของเราไม่ดี ดังนั้น ทุกคนจะต้องช่วยกันแก้ไขเรื่องเหล่านี้ให้ได้ และการปฏิรูปการศึกษาจะใช้รูปแบบเดิมก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นทุกคนต้องเร่งดำเนินการ เพราะการปฏิรูปการศึกษาเป็นช่วงเวลาสั้นๆ
"ในการขับเคลื่อนงานตามนโยบายต้องกำหนดกรอบระยะเวลาการทำงานให้เห็นผลงานที่ชัดเจนด้วย ซึ่งผมอยากให้ทุกคนร่วมมือกัน แต่หากเขตพื้นที่ฯ ใดไม่เล่นด้วย ก็จะให้ไปเล่นที่อื่น โดยประเด็นนี้ผมไม่ได้ว่าใครหรือเป็นการคาดโทษใคร แต่ต้องการส่งสัญญาณไปยังเขตพื้นที่การศึกษา และถ้าหากเชื่อมั่นในตัวผม ขอให้ทุกคนทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่" รมว.ศธ.กล่าว
รมว.ศธ.ยังกล่าวอีกว่า ส่วนในการปรับเกณฑ์เลื่อนวิทยฐานะของรอง ผอ.เขตพื้นที่ฯ เหมาะสม เนื่องจากที่ผ่านมีรอง ผอ.เขตพื้นที่ฯ 1,300 คน ผ่านการประเมินวิทยฐานะเชี่ยวชาญเพียง 7 คนเท่านั้น เพราะการทำงานของรอง ผอ.เขตฯ ผลงานจะปรากฏไปที่ ผอ.เขตพื้นที่ฯ เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นจะต้องไปหารูปแบบวิธีการประเมินให้รอง ผอ.เขตพื้นที่ฯ ด้วย.
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 22 กันยายน 2558