อึ้ง! ครูสาวแฉนมบูด โดนกดดันหนัก-ถึงขั้นอยู่ไม่ได้ต้องขอย้าย/ลาออกหนีแล้ว
![อึ้ง! ครูสาวแฉนมบูด โดนกดดันหนัก-ถึงขั้นอยู่ไม่ได้ต้องขอย้าย/ลาออกหนีแล้ว](https://www.kruwandee.com/datas/document/picture-3-29288.jpg)
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์
ก-
ก+
น่าน - พื้นที่การศึกษาน่าน เขต 1 เตรียมหาทางช่วยเหลือครูสาวโรงเรียนบ้านน้ำลี หลังออกโรงแฉนมโรงเรียนบูดแล้ว กลับเจอแรงกดดันหนัก จนต้องยื่นหนังสือขอย้าย แถมกำชับถ้าย้ายไม่ได้ ก็จะขอลาออก ขณะที่ สตง.เร่งมือสอบพิรุธบริษัทนมคู่สัญญา
วันนี้(12 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมเร็จ อุดแดง รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาน่าน เขต 1 เตรียมลงพื้นที่เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ นางสาววิไลวรรณ กองนันท์ คุณครูประจำโรงเรียนบ้านน้ำลี อ.นาหมื่น จ.น่าน ซึ่งได้ขอทำเรื่องย้ายออกจากพื้นที่ หลังถูกแรงกดดัน และกระแสต่อว่า จากกลุ่มบุคคลหลายฝ่ายว่า สร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ ทำให้ทุกฝ่ายต้องวุ่นวาย ทำเอกสาร ชี้แจงหน่วยงานต่างๆกันทุกวัน
โดยนางสาววิไลวรรณ ระบุถึงขั้นที่ว่า หากโยกย้ายไม่ได้ ก็จะขอลาออก เนื่องจากเห็นการทำงานต่อไปในอนาคต คงยากที่จะได้รับความร่วมมือ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตการศึกษาน่าน เขต 1 บอกว่า จะเข้าพื้นที่สอบถามข้อมูล และประเมินสถานการณ์ หากรุนแรงก็จะทำการโยกย้ายเพื่อลดกระแสก่อน แต่หากยังพอประนีประนอมได้ ก็จะพิจารณาช่วยเหลือให้มาอยู่ในพื้นที่เหมาะสมต่อไป
อย่างไรก็ตามทางเขตพื้นที่การศึกษาน่านเขต 1 ขอชื่นชมคุณครูที่นำเรื่องนมบูดดังกล่าวออกมาเปิดเผยสู่สังคม เป็นเสียงสะท้อนจากครูโรงเรียนเล็กๆ จนนำไปสู่การแก้ไขที่ดีขึ้นในระดับประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นผลดีต่อเด็กนักเรียนทุกคน และเตรียมมอบใบประกาศเป็นครูดีเด่น
ด้านนายอุทัย ทองคุ้ม ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินพื้นที่น่าน ได้เข้าตรวจสอบโครงการนมโรงเรียนบูดดังกล่าว โดยเฉพาะเอกสารสัญญากับบริษัทผู้ผลิต และส่งนมให้กับโรงเรียนใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น จ.น่าน หลังพบว่าบริษัทดังกล่าวอาจไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่สัญญา
เนื่องจากทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า ไม่ได้เป็นสมาชิกนมคุณภาพขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) จึงจะให้มีการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ที่บริษัทนำมาประกอบการทำสัญญากับคณะกรรมการ เพื่อเป็นผู้ผลิตและส่งนมให้โรงเรียนในพื้นที่ ว่า มีการแอบอ้างหรือปลอมแปลงเอกสารหรือไม่ โดยจะประสานกับ อสค. ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งให้คณะกรรมการทบทวนหาข้อมูลให้ชัดเจน โดยเฉพาะกระบวนการผลิตและคุณภาพของนมด้วย
โดยนายทองทรัพย์ โนทะ นายก อบต.ปิงหลวง ยืนยันว่า ทาง อบต.ได้ดำเนินจัดซื้อนมโรงเรียนตามระเบียบพัสดุทุกอย่าง ตามคำสั่งการจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) ระบุให้ซื้อนมจากบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง
ขณะที่นายแพทย์ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า จากตัวอย่างนมโรงเรียนบ้านน้ำลี ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น จ.น่าน ซึ่งน้ำนมมีลักษณะเป็นก้อน เหนียวข้น และมีกลิ่นเหม็น ดูด้วยสภาพตาเปล่าเห็นได้ชัดเจนว่า เป็นนมเสีย และได้ส่งตัวอย่างไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงราย เพื่อทำการเพาะหาเชื้อจุลินทรีย์ ว่าเป็นเชื้อชนิดใด ซึ่งเชื้อจุลินทรีย์ จะบ่งบอกได้ว่า เกิดการปนเปื้อนจากขั้นตอนใด ระหว่างกระบวนการผลิต การบรรจุภัณฑ์ การขนส่ง หรือการจัดเก็บ และการเพาะเชื้อต้องใช้กระบวนการให้อาหารเลี้ยงเชื้อ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จะสามารถตรวจหาชนิดของเชื้อจุลินทรีย์ได้
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กันยายน 2558 07:36 น.