"ครูเข้" เตือน! คน ก.ศึกษาฯ "ครูหนุ่ย" ถือไม้เรียวมาด้วย
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
"ครูเข้" เตือน! คน ก.ศึกษาฯ "ครูหนุ่ย" ถือไม้เรียวมาด้วย"ครูเข้" การันตี "ครูหนุ่ย" เชื่อมือเป็นคนเก่งมีความเฉียบขาด รับตัวเองเป็นแค่ "ครูใหญ่ใจดี" เตือน ครูทั่วประเทศ ระวัง! รมว.ศธ. คนใหม่ “อาจจะถือไม้เรียวมาด้วย” ย้ำไม่ห่วงหรือกังวลเรื่องงาน รับเสียดายโครงการคุรุทายาท โครงการช่างเทคนิค และบัณฑิตนักปฏิบัติ ดันยังไม่ถึงฝั่ง
วันนี้ (20 ส.ค.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีต รมว.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรี ว่า ช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ในฐานะ รมว.ศึกษาธิการ ได้ทำไปหลายเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องภาพลบของ ศธ. ที่เกิดขึ้นในองค์กรต่าง ๆ ทั้งใน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) องค์การค้าของ สกสค. และสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ซึ่งตนไม่รู้สึกห่วงหรือกังวลอะไร เมื่อมีผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาดำเนินการต่อ และยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลอีก ทั้งสำนักงานการตรวจแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นต้น และยังมีผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ. ดำเนินการอยู่แล้ว
ส่วนการทำงานอื่น ๆ นั้นที่ผ่านมา ตน และ รมช.ศึกษาธิการ ทั้ง 2 คน พยายามแก้ไขปัญหาจุดอ่อน ของการจัดการศึกษา ทั้งระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานอาชีวศึกษา และอุดมศึกษา ดำเนินการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ขาดแคลนครูโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ส่วนปัญหาครูและบุคลากรทางการศึกษาตนก็ได้เข้าไปดู สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ซึ่งมีหลายเรื่องที่ได้แก้ไขไปแล้ว อาทิ ปรับการประเมินวิทยฐานะที่ให้ยึดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กมากขึ้น ที่เหลือก็รอแต่การดำเนินการที่จะเกิดขึ้นในปี 2559 ทั้งหมดนี้อะไรที่กระทบกับเด็กก็พยายามแก้ไข เดินหน้าการปฏิรูปการศึกษา ให้ลงสู่ห้องเรียน ซึ่งก็ทำได้ระดับหนึ่ง เรื่องนี้ต้องใช้เวลา เพราะครูมีมาก 4 - 5 แสนคน
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า เรื่องที่ตนอยากดำเนินการให้แล้วเสร็จแต่ยังไม่ลุล่วง คือ โครงการคุรุทายาท และโครงการช่างเทคนิคและบัณฑิตนักปฏิบัติ ซึ่งเป็นโครงการที่จะมาผลิตครูใหม่ที่มีคุณภาพ ได้เสนอเรื่องให้ รศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรองนายกฯ พิจารณาคิดว่าจะเข้า ครม. เร็ว ๆ นี้ ขึ้นอยู่กับ ครม. พิจารณา เพราะเป็นโครงการระยะยาว 15 ปี ใช้งบประมาณค่อนข้างมาก แต่รัฐบาลนี้ใช้งบประมาณไปกับเรื่องอื่น ๆ หลายแสนล้าน แต่ยังไม่ได้ใช้งบเพื่อโครงสร้างบุคลากรมากนัก ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลทุ่มเทงบประมาณในการผลิตบุคลากรทางการศึกษาเพื่อไปเป็นครู อาจารย์ที่ดี เป็นสิ่งที่ผมคาดหวังว่าอยากจะทำต่อ เชื่อว่า ผู้บริหารชุดใหม่จะคล้อยตามด้วย และเชื่อมั่นในความสามารถ โดยเฉพาะ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่ ว่า เป็นคนเก่งมีความเฉียบขาดหรืออาจจะตัดสินใจอะไรได้ดีกว่าตน ซึ่งตนอาจจะเป็นครูใหญ่ใจดี ส่วน พล.อ.ดาว์พงษ์ เข้ามาอาจจะถือไม้เรียวมาด้วย ในเรื่องการดูแลอาจจะเข้มงวดกว่าผม ซึ่งอาจจะทำให้เด็กหรือแม้กระทั่งข้าราชการใน ศธ. ได้ตื่นตัวมากขึ้น
“ส่วนตัวเห็นว่า 1 ปี ของการทำงานยังน้อยไป โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาที่ต้องใช้เวลา แต่ยังดีที่มีผู้บริหาร ศธ. ให้ข้อคิด เห็นให้ข้อมูล ทำให้ตัดสินใจได้พอสมควร แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรที่ผ่านมา เราเปลี่ยนรัฐมนตรีกันบ่อย แต่ก็ไม่น้อยใจเพราะเป็นเรื่องปกติของการเมือง ตอนนี้ต้องยอมรับว่าตัวเองเป็นข้าราชการการเมือง ก็ต้องยอมรับในความเปลี่ยนแปลง จะมาโดยเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งก็ตามขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ ซึ่งอาจจะมองว่าหากปรับเปลี่ยนแล้ว อาจจะทำให้งานใน ศธ. เร็วขึ้น ผู้บริหารชุดใหม่อาจจะมีการตัดสินใจที่เร็วกว่า ส่วนงานในฐานะรองนายกฯนั้นยังไม่ได้รับมอบหมาย” พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว
ส่วนการปรับครั้งนี้มีการส่งสัญญาณล่วงหน้าหรือไม่ พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า ถ้าพูดตรง ๆ ก็ไม่มี นายกฯไม่ได้ถาม ไม่ได้บอกให้ไปดูแลงานอะไรในเรื่องไหน ตนรู้พร้อมกับคนอื่น ๆ ส่วนกรณีที่ปรับนายกฤษณพงศ์ กีรติกร ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. ด้วยนั้น ตนก็ไม่ทราบเหตุผลเช่นกัน แต่เมื่อมีกระแสปรับ ครม. เข้ามาทุกคนก็ทำใจ ซึ่งผลเองก็เช่นกัน ไม่ได้รู้สึกน้อยใจอะไร เพราะอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้เหมือนกัน
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 20 สิงหาคม 2558