"ณรงค์" สั่งทบทวนจัดการศึกษาเชิงพื้นที่
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
"ณรงค์" สั่งทบทวนจัดการศึกษาเชิงพื้นที่รมว.ศึกษาธิการ มอบ สพฐ.ทบทวนใหม่การบูรณาการการศึกษาระดับจังหวัด ชี้อำนาจคณะกรรมการจังหวัดไม่ชัดเจน ระบุหากทำได้จริง จะตอบโจทย์การผลิตบุคลากรตอบสนองท้องถิ่น
วันนี้ ( 22 ก.ค.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดังสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอขอให้มีการบูรณการจัดการศึกษาระดับจังหวัดขึ้น โดยมีแนวคิดว่าหากมีองค์กรที่สามารถเชื่อมโยงประสานงานสำหรับหน่วยงานในพื้นที่ ในรูปแบบคณะกรรมการจังหวัด ในการเข้าไปดูแล กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ ด้านการศึกษาภายในจังหวัดได้ ก็จะทำให้การพัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของคนในท้องถิ่นมากขึ้นซึ่งรูปแบบของคณะกรรมการจังหวัดที่ สพฐ.เสนอมา ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ตรวจราชการ ศธ. ผู้แทนหน่วยงานอื่นๆในจังหวัด ผู้แทนจากสำนักงานเขตพื้นการศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)ทำหน้าที่เป็นเลขานุการ ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยหากจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าว แต่ยังไม่ได้ให้ข้อยุติ เพราะมองว่าโครงสร้างในรูปแบบคณะกรรมการจังหวัดยังไม่เอื้อต่อการดำเนินการเท่าที่ควร เนื่องจากอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการระดับจังหวัดที่เสนอมานั้น ยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะอำนาจในการโยกย้ายบุคลากรในพื้นที่ที่ประชุมจึงให้ สพฐ.กลับไปทบทวนปรับปรุงให้เกิดความเหมาะสมอีกครั้ง
"การบูรณการการศึกษาในรูปแบบคณะกรรมการจังหวัดนั้น ไม่ได้ทำให้งานซับซ้อน หรือ มาทดแทนการทำงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพราะที่ผ่านมาการทำงานจะสั่งการด้านนโยบายจากส่วนกลางลงไปยังเขตพื้นที่ฯ จึงทำให้ความสัมพันธ์กับหน่วยงานระดับจังหวัดมีน้อยมาก อีกทั้งภาพรวมนโยบายการจัดการศึกษาไม่ใช่เพียงแค่กระทรวงศึกษาธิการ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเท่านั้น แต่ควรมีหน่วยงานจากภาคส่วนอื่นๆเข้ามาร่วมบูรณการการทำงานด้วย ขณะเดียวกันการมีองค์กรระดับจังหวัดมาช่วยในการจัดการศึกษา จะเป็นการสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนภายในพื้นที่ เพื่อให้ผลิตบุคลากรตอบสนองต่อความต้องการของท้องถิ่น" รมว.ศึกษาธิการ กล่าว.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 22 กรกฎาคม 2558