"กำจร" แฉยอดหนี้แม่พิมพ์นับล้านล้านบาท
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เผยความคืบหน้าแก้ไขปัญหาหนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ว่า จากการหารือกับธนาคารออมสินสรุปว่าจะแบ่งลูกหนี้เป็น 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มลูกหนี้วิกฤติรุนแรง ที่อยู่ระหว่างถูกฟ้องดำเนินคดีหรือบังคับคดี ขาดความสามารถชำระหนี้ ให้ชะลอการฟ้องดำเนินคดีหรือบังคับคดีไม่เกิน 3 ปี แต่ทั้งนี้ ต้องมีระยะเวลาฟ้องคดีเหลือไม่น้อยกว่า 2 ปี และให้พักชำระดอกเบี้ยไม่เกิน 3 ปี แต่ให้ชำระเงินต้นเมื่อครบ 3 ปี ให้นำดอกเบี้ยที่พักไว้ เฉลี่ยจ่ายคืนรวมกับเงินงวดต่อๆไป โดยกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์มากสุด กลุ่มที่ 2 ลูกหนี้ใกล้วิกฤติที่มีหนี้ค้างชำระเกินกว่า 12 งวดติดต่อกัน ให้พักชำระดอกเบี้ยไม่เกินครึ่งหนึ่งเป็นเวลาไม่เกิน 2 ปี แต่ให้ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยส่วนที่เหลือ เมื่อครบ 2 ปี ให้นำดอกเบี้ยที่พักไว้เฉลี่ยจ่ายคืนรวมกับเงินงวดต่อไป กลุ่มที่ 3 ลูกหนี้ที่ค้างชำระไม่เกิน 12 งวดติดต่อกันให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามมาตรการของธนาคาร และกลุ่มสุดท้ายลูกหนี้ปกติ ให้พักชำระเงินต้นไม่เกิน 2 ปี แต่ให้ชำระดอกเบี้ย โดยให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ทำหนังสือแจ้งเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ
ปลัด ศธ. กล่าวอีกว่า ลูกหนี้ที่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงข้าราชการบำนาญสังกัด ศธ.ต้องไปลงทะเบียนที่ธนาคารออมสิน และแจ้งหน่วยงานต้นสังกัดให้รับรอง ภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้ เพื่อรวบรวมบัญชีรายชื่อ โดยมีเงื่อนไขว่าลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการต้องไม่ก่อหนี้เพิ่ม และหากมีพฤติกรรมเบี้ยวหนี้จะไม่ได้รับโอกาสให้เข้าร่วมโครงการอีก ทั้งนี้จากข้อมูลพบครูที่อยู่ในกลุ่มลูกหนี้วิกฤติรุนแรงประมาณ 1,700 คน ส่วนกลุ่มที่ 2 ใกล้วิกฤติมีจำนวนหลายหมื่นคน ส่วนกลุ่มอื่นไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน โดยมีมูลค่าหนี้ทั้งหมดประมาณ 1 ล้านล้านบาท
ด้าน พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศธ. กล่าวว่า นอกจากมาตรการแก้หนี้แล้วต้องเน้นสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ครูด้วย เพราะหนี้สินครูไม่ได้เกิดจากการประกอบอาชีพครู แต่เป็นเพราะครูมีโอกาสกู้เงินได้ง่ายและเป็นเงินก้อนใหญ่ เช่น โครงการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ที่ให้วงเงินกู้สูงถึง 3 ล้านบาท ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ผ่านมาได้หารือเพื่อลดวงเงินกู้ลง ร่วมทั้งสวัสดิการอื่นๆด้วย.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 8 กรกฎาคม 2558