"ทิพยประกันภัย" ยืนยันประกันเงินกู้ช.พ.ค.ถูกต้อง
!["ทิพยประกันภัย" ยืนยันประกันเงินกู้ช.พ.ค.ถูกต้อง](https://www.kruwandee.com/datas/document/picture-3-28523.jpg)
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์
ก-
ก+
จากกรณีสมาชิกกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนสมาชิกครู (ช.พ.ค.) ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายกรัฐมนตรี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ตรวจสอบโครงการปล่อยกู้ของธนาคารออมสิน และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่รับประกันสินเชื่อกลุ่มครูที่กู้เงินจากโครงการดังกล่าวนั้น
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด(มหาชน) นายสมพร สืบถวิลกุล ชี้แจงว่า บริษัทได้เข้าไปรับทำประกันกลุ่มครูตามโครงการเงินกู้ ช.พ.ค. ตั้งแต่ 5 ปีแล้วได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
โดยประกันผู้กู้เงินวงเงินตั้งแต่ 600,000 บาทถึง 3 ล้านบาท คิดเบี้ยประกันเท่ากันทุกกลุ่มอายุ ทุกเพศ ทุกวัย ที่ 620 บาท ต่อวงเงินความคุ้มครอง 100,000 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาด 15%
ซึ่งเดิมการขอกู้เงินของธนาคาร ต้องมีการรวมกลุ่มย่อยเพื่อค้ำประกันซึ่งกันและกัน ต่อมา จึงมีระบบประกันภัยเข้ามารองรับ โดยมีวัตถุประสงค์เมื่อผู้กู้เสียชีวิต จะได้ไม่ทิ้งภาระไว้ให้ผู้ค้ำประกันและทายาท ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้กู้ ที่จะช่วยให้ได้รับอนุมัติวงเงินกู้ที่สูงขึ้นได้ง่ายขึ้น
เพลทคำพูด
“การทำประกันสินเชื่อ ตามความสมัครใจของผู้กู้และตามเงื่อนไขการกู้เงินจากธนาคาร”สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ทิพยประกันภัย
ขณะเดียวกันลูกค้าสามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้เช่นกัน แต่อาจทำให้ทายาทของผู้กู้และผู้ค้ำประกันได้รับความเดือดร้อนในภายหลังได้
ส่วนกรณีที่มีข้อซักถามว่า ทำไมกรมธรรม์ของผู้กู้ไม่ได้รับนั้น เนื่องจากเมื่อเป็นประกันกลุ่มบริษัทจะออกกรมธรรม์ 2 ฉบับ ให้ธนาคารออมสินในฐานะเจ้าหนี้เก็บไว้ 1 ฉบับ ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) 1 ฉบับ ในฐานะที่ดูแล ช.พ.ค. ส่วนผู้กู้จะออกเป็นใบสรุปเงื่อนไขความคุ้มครองให้ ซึ่งได้แจ้งว่าหากอยากได้กรมธรรม์ฉบับจริงให้แจ้งบริษัทฯ ได้ แต่กรณีการประกันกลุ่มปกติก็จะไม่ออกกรมธรรม์จริงให้ลูกค้าอยู่แล้ว
นอกจากนั้น กรณีการเก็บเบี้ยครั้งเดียวล่วงหน้า นายสมพร บอกว่า เรื่องนี้สามารถทำได้ตามจำนวนปีที่ขอสินเชื่อ โดยบริษัทประกันชีวิตสามารถเก็บเบี้ยประกันสินเชื่อล่วงหน้าครั้งเดียวได้สูงสุด 30 ปี แต่ในกรณีนี้ทางบริษัทฯได้รับการอนุมัติให้เก็บเบี้ยได้สูงสุดครั้งเดียว 9 ปี หากชำระหนี้ครบก่อน 9 ปี สามารถขอเบี้ยคืนได้ในส่วนที่ชำระไว้เกิน หรือหากชำระหนี้ยังไม่หมดภายใน 9 ปี สามารถต่ออายุได้ แต่ผู้กู้อายุต้องไม่เกิน 74 ปี
ทั้งนี้ตลอด 5 ปีที่ผ่านมามีสมาชิก ช.พ.ค.ที่ทำประกันภัยเสียชีวิตไปแล้วประมาณ 7,000 ราย บริษัทได้จ่ายสินไหมทดแทนออกไปแล้วประมาณ 6,500 ล้านบาท จากเบี้ยที่รับมาประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเงินที่เหลืออีก 3,500 ล้านบาท ต้องเก็บไว้เพื่อเตรียมชำระค่าสินไหมตามกรมธรรม์ ถือว่าโครงการนี้ไม่มีกำไรจากการรับประกันแต่จะได้ในส่วนของการเงินก้อนนี้ไปลงทุน
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์ now26.tv วันที่ 7 มิถุนายน 2558