ติงปฏิรูปการศึกษาทำหลายครั้งแต่ไม่เกิดผล
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
นักวิชาการ ชี้การเรียนในห้องเรียนยังเน้นท่องจำ ไม่กระตุ้นให้เด็กคิด แนะครูต้องปรับวิธีการสอนให้เด็กรู้จัก “เอ๊ะ” ตลอดเวลา ติงปฏิรูปการศึกษาทำหลายครั้ง แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หากไม่ดีขึ้นก็ควรหยุด และหาวิธีการใหม่วันนี้ (28 เม.ย.)ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ดร.เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการมูลนิธินโยบายสุขภาวะ กล่าวตอนหนึ่งในการเสวนาผู้นำแห่งอนาคต ครั้งที่ 5 “มหาวิทยาลัยเถื่อน พบคนเมือง” ว่า ขณะนี้การจัดการศึกษาทุกระดับล้วนมีปัญหา โดยเฉพาะการเรียนการสอนในห้องเรียนที่ไม่ได้เป็นห้องเรียนแห่งการเรียนรู้สำหรับเด็กจริงๆ แต่เป็นห้องเรียนที่ครูพยายามสอนเด็กแบบท่องจำ ไม่ได้กระตุ้นให้เด็กได้คิด ตั้งโจทย์คำถาม หรือมีส่วนร่วม ดังนั้น ต้องปรับวิธีการสอน โดยเน้นกระบวนการพูดคุย แลกเปลี่ยน ตั้งคำถาม ให้เด็กต้องเกิดคำว่า “เอ๊ะ” ในห้องเรียนตลอดเวลา และต้องให้เด็กได้ค้นคว้าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้หลังเสร็จสิ้นการสอน ครูต้องถามตัวเองว่าได้ความรู้ใหม่เพิ่มเติมจากเด็กหรือไม่ หากไม่ได้แสดงว่าการสอนชั่วโมงนั้นไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งครูต้องหากระบวนการสอนใหม่ๆ เพื่อให้เด็กเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด
ด้านนายพฤหัส พหลกุลบุตร หัวหน้าฝ่ายการศึกษา กลุ่มละครมะขามป้อม กล่าวว่า ระบบการศึกษากระแสหลักทำให้คนเป็นเหมือนกัน ทำเหมือนกัน คิดเหมือนกัน ไม่สามารถคิดนอกกรอบได้ ซึ่งส่วนตัวไม่เชื่อในระบบการศึกษา และไม่เชื่อการปฎิรูปการศึกษา เพราะที่ผ่านมามีการปฎิรูปการศึกษาหลายครั้งแต่ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการกระทำเดิมๆ ที่ไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ก็ควรจะหยุด ไม่ต้องพยายามทำระบบนั้นขึ้นมาอีก แต่ควรสร้างระบบ หรือวิธีการใหม่ขึ้นมา เพื่อให้เกิดการพัฒนา และเปลี่ยนระบบการศึกษาจริงๆ อย่างไรก็ตามครู และนักเรียน นักศึกษา ต้องพร้อมสลับบทบาทกันได้ เพราะความรู้ไม่ได้อยู่ที่ครูอย่างเดียว เด็กก็สามารถที่จะถ่ายทอดความรู้ให้แก่เพื่อนร่วมชั้น หรือครูได้ นอกจากนี้ยังอยากเห็นการเรียนรู้ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะในสถานที่เท่านั้น แต่ควรขยายวงกว้างไปสู่ชุมชนมากขึ้นด้วย.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอังคารที่ 28 เมษายน 2558 เวลา 16:02 น.