ค่าเรียนเด็กประถมปีละ 7 แสน ..แม่เจ้า!!
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
โดย...ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)เมื่อวันก่อนมีงานกินเลี้ยงครอบครัว พบญาติ ผมได้ข้อมูลอันนึงที่ถึงกับตะลึง ..เรื่อง “ค่าเรียน” ว่ามันแพงแบบตะลึง ..ยุคที่ผมเรียนมหาวิทยาลัย ผมเคยได้ยินว่ามหาวิทยาลัยดัง ต้องเตรียมเงินประมาณ 3ล้านต่อปี สำหรับปริญญาโท IVY LEAGUE อย่าง Harvard Business School คือ จบแล้ว เหยียบเมฆ ..ฮึม!! เหยียบจริงแค่ไหนหลังเรียนจบ ผมไม่ทราบ แต่ยุคก่อน ใครจบ IVY LEAGUE ก็การันตีอนาคตสดใสได้งานดีๆ ทำในประเทศไทย
แต่เอาจริงๆ นะ วันนี้ผมว่า มันไม่ได้การันตีเหมือนเดิม อยากจะเรียกคนจบ IVY LEAGUE ยุคนี้มาสัมภาษณ์จังว่า มันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เพราะ ปัจจุบันค่าเรียนมันสูงขึ้นไปอีก ..อย่างเรียนเมืองนอกธรรมดา เดี๋ยวนี้ถ้าอยู่แบบประหยัด ต้องเตรียมปีละล้านเป็นอย่างน้อย
โอเค!! ..ปีละล้านต่างประเทศ ผมพอฟังขึ้น แต่ข้อมูลใหม่ที่ได้จากญาติผมเองนี่เขาส่งลูกเรียน อินเตอร์เมืองไทยนี่เอง จ่ายค่าเรียนปีละ 7 แสนสำหรับค่าเรียนประถม ..แล้วมีแพงกว่านั้น คือ ปีละล้านก็มี ..โอ้ว!! แม่เจ้า ..ผมไปอยู่หลังเขาที่ไหนมานี่ ทำไมค่าเรียนมันช่างขึ้นแรงแซงเห็ดกระจายถึงเพียงนี้
ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ญาติผมที่ส่งลูกเรียนปีละเกือบล้าน นี่ลูกคนนึงนะ เขายังมีลูกอีกหลายคนที่กำลังส่งเรียนด้วย รวมแล้วแต่ละปี ครอบครัวนี้จ่ายแค่ค่าเรียนลูกปีละหลายล้านบาท ..คุณอาจจะคิดว่า ญาติผมต้องเป็นเศรษฐีพันล้านแน่ๆเลย ถึงยอมจ่ายค่าเรียนลูก ..เฉพาะค่าเรียนลูก ปีละหลายล้าน ..ไม่ใช่เลย เขาก็คือ ครอบครัว White Collar พนักงานบริษัทดีๆ นี่เองครับ
ผมนั่งคำนวณตัวเลขแล้วตกใจ ว่ารายจ่ายของ ครอบครัวปัจจุบัน มันสูงอย่างน่าตกใจ ..ในส่วนของรายรับ ก็ไม่ใช่จะหาเงินได้มากมายขนาดนั้น ..พูดง่ายๆ ว่า เดี๋ยวนี้พ่อแม่ทุ่มสุดตัวกับการศึกษาของลูก เพราะหวังว่า ค่าเรียนแพงๆ ระดับ ปีละล้าน จะทำให้เขาได้ ดังต่อไปนี้
หนึ่ง ได้เป็นเพื่อนกับลูกเศรษฐี ซึ่งจะเปิดโอกาสในชีวิต ..อันนี้เป็นความคิดของเขานะ เพราะในความเป็นจริง มันก็ขึ้นกับว่า ที่ลูกเราได้ไปเรียนกับเศรษฐีแล้วมันจะทำให้ลูกเราดีขึ้นจริงๆ หรือ ไปกดดันว่า ทำไมเราไม่มีเหมือนเขารึเปล่า อันนี้ยากที่จะรู้
สมมุติลูกคุณไปโรงเรียนนั่ง ECO Car ส่วนเพื่อนของลูกคุณมันนั่ง Roll-Royce มา เพราะพ่อมันคือ เศรษฐีพันล้าน ..เวลาวันหยุด เพื่อนมันก็ชวนลูกเราไปดูวังของมัน ที่อยู่บนเกาะ โดยนั่งเรือยอร์ทของพ่อมันไป ..ไม่ต้องคิดต่อ ผมว่า มันสร้าง “ปมชีวิต” บางอย่างในเบื้องต้น แต่ขอข้ามประเด็นนี้ไปก่อน
สอง ลูกเราจะได้ ความรู้ที่แตกต่าง ..คุณเคยได้ยินไหมว่า เศรษฐีเขาสอนลูกแบบนึง “Rich Dad , Poor Dad” ซึ่งไม่ใช่อย่างที่คนธรรมดาสอนลูก ...ประเด็นนี้ คุณเคยได้ยินเรื่องของ Bill Gates เขา Home School ไหม ..ใช่!! ในต่างประเทศคนที่รวยจริงๆ เขาไม่ได้ให้ลูกไปโรงเรียนปกติ หรือ โรงเรียนอินเตอร์แบบบ้านเรานะครับ เพราะ เขาอินเตอร์อยู่แล้ว
สิ่งที่ Bill Gates ทำ คือ Home School คือ เขาเป็น อาจารย์ใหญ่ กำหนดตารางเรียน และ วิชาต่างๆ เอง ให้ครูมาสอนบ้าง สอนเองบ้าง แล้วบางอย่างเรียนจาก Internet ...ถ้าใครเคยเข้าไปดู Khan Academy นั่นก็คือ เว็บนึงที่ Bill Gates ให้ลูกเขาเข้าไปเรียนหลายๆ อย่างในนั้น
บอกตรงๆ อันนี้กระทบไหล่ Bill Gates เลยนะ ..ถ้าลูกคุณ อ่านและฟังภาษาอังกฤษออก คุณเข้า Khan Academyคุณได้ความรู้ระดับลูก Bill Gates เรียนเลยนะ แม่เจ้า !!
เอาหล่ะ บอกตรงๆ ผมตกใจ กับโลกปัจจุบันมาก ที่ความแตกต่าง ทางเลือกของชีวิตของเด็กรุ่นใหม่ ผมว่าโคตรเหนื่อย ..เราอาจจะเข้าใจว่า ก๋วยเตี๋ยวมื้อละ 50 บาท มันต่างกับ อาหารมิชเชอลินบนหลังคาตึกมื้อละ 10,000 บาท ..ซึ่งหลายๆ คนบอกกินเสร็จเดี๋ยวก็อึออกมา ..ก็นั่นแหละครับ คุณภาพของอุจจาระว่าจะใส่ของดีแค่ไหน
อะไรคือประเด็นล่ะ ระหว่างความแตกต่าง ระหว่าง คนที่กินข้าวมือละ 10,000 บาท กับข้าวแกง 100 บาท ..กับเด็กที่เรียนโรงเรียนวัด หรือ โรงเรียนฟรีของรัฐบาล เทียบกับเด็กที่เรียนโรงเรียนอินเตอร์
เดี๋ยวครับ หลายคนอาจจะคิดว่า ผมยกประเด็นขึ้นมาแอนตี้อะไรบางอย่าง แต่ไม่ใช่ ..ผมเพียงแต่เห็นโอกาส ในหลายๆอย่างจากประเด็นนี้
อย่างแรกเลย ผมเห็นโอกาสเรื่องธุรกิจการศึกษา ..ประมาณว่า ถ้าใครพร้อมจะจ่ายปีละล้าน ผมเองอยากเปิดโรงเรียน “อยากทำธุรกิจโรงเรียนสอนลูกให้เป็นเศรษฐี”(ผมว่าผมสอนไม่แพ้โรงเรียนอินเตอร์เหล่านั้น ขึ้นกับว่าพ่อแม่ต้องการให้ลูกเป็นอะไร) แล้วฝึกลูกคุณเป็น The Wolf หรือ The Shark เอาขนาดที่ว่า เด็กคนไหนที่ผ่านโรงเรียนของผม เขาจะเป็นเจ้าของกิจการ เพราะ ผมจะสอนลูกคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ ..ถ้าคิดไม่ได้ ผมจะทำให้เขาคิดได้สร้างได้ก่อนจบปริญญา
แต่ถ้าเด็กคนไหนเลือกเป็นลูกจ้าง “ผมจะสอนวิชา งานประจำ ก็ทำเงินได้มหาศาล” ผมจะชี้ให้เห็นว่า ลูกจ้างที่รวยต้องคิดและทำอย่างไร (สนุกแล้วซิ สอนให้เด็กเป็น Street Smart)...เอาว่า ครั้งหน้าเรามาคุยเรื่องนี้กันลึกๆ จัดไป !!
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 21 เมษายน 2558