ศธ.ไขปัญหาผอ.รร.มือไม่ถึง
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ที่ประชุมองค์การหลัก ศธ.ไฟเขียว ก.ค.ศ.เพิ่มเวลาการทำงานสอน-บริหาร ก่อนจะก้าวขึ้นตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา แก้ปัญหาได้ผู้บริหารอายุน้อยมือไม่ถึง พร้อมปรับปรุงระบบบริหารงานครูสายการสอนที่ไม่ประสงค์เป็นผู้บริหาร ให้มีความเจริญก้าวหน้าได้ทัดเทียมกันวันนี้ (13 เม.ย.) ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ฐานะโฆษก ศธ.เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ.ซึ่งมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศธ.เป็นประธาน มีมติรับหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เสนอขอปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารสถานศึกษาใหม่ โดยมี 6ช่องทาง ซึ่งแต่ละช่องทางต้องใช้เวลาทำงานไม่น้อยกว่า 9-11ปี จึงจะเข้าสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาได้ ทั้งนี้ เนื่องจากหลักเกณฑ์ที่ใช้อยู่ปัจจุบันถ้าจบการศึกษาระดับปริญญาตรีมาใช้เวลาทำงานประมาณ 5-6ปี และถ้าจบปริญญาโท ใช้เวลาแค่ 3 ปี ก็เป็นผู้อำนวยการสถานศึกษาได้ ทำให้ไม่แตกฉานทั้งประสบการณ์สอน และประสบการณ์บริหาร จึงมีปัญหามาโดยตลอดว่า ได้ผู้บริหารที่มีอายุน้อย ไม่มีประสบการณ์ที่เพียงพอ ส่งผลให้ไม่สามารถดูแลครูดูแลการบริหารสถานศึกษาได้ดีพอ ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นทั้งในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และอาชีวศึกษา
“ ระบบการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาใหม่ อาทิ ครูผู้ช่วยจะเข้าสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ต้องมีประสบการณ์การสอน 4-6 ปี และมีประสบการณ์สายบริหาร 4-5 ปี ด้วย ซึ่งจะทำให้ได้ผู้บริหารมืออาชีพมากขึ้น โดยที่ประชุมมอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ.เสนอเรื่องดังกล่าวต่อบอร์ด ก.ค.ศ.เพื่อพิจารณา” โฆษก ศธ.กล่าวและว่า นอกจากนี้ รมว.ศธ.ยังเสนอให้ปรับปรุงระบบการบริหารงานบุคคลของครูที่อยู่ในสายการสอนและไม่ประสงค์จะเป็นผู้บริหาร ให้มีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับสายบริหารด้วย.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 13 เมษายน 2558