มติ ครม.ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา (31 มี.ค.2558)
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ครม.เห็นชอบร่างกฎ ก.พ.อ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือน
ในสถาบันอุดมศึกษาได้รับเงินเดือน
ศึกษาธิการ - สรุปมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ เห็นชอบร่างกฎ ก.พ.อ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาได้รับเงินเดือน และอนุมัติหลักการให้โรงเรียนเอกชนที่เปิดสอน ปวช.ได้รับเงินอุดหนุนรายบุคคล ตามสิทธิของโรงเรียนการกุศล อัตราร้อยละ 100 รวมทั้งประเด็นอื่นๆ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎ ก.พ.อ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาได้รับเงินเดือน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญ คือ
1) กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตำแหน่งวิชาการซึ่งได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับเงินเดือนของตำแหน่งที่ดำรงอยู่ ให้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นสูงของอันดับเงินเดือนเดิมโดยให้ไปอาศัยรับเงินเดือนในตำแหน่งถัดไปอีกหนึ่งตำแหน่ง
2) กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตำแหน่งวิชาการซึ่งจะได้รับเงินเดือนสูงขึ้น และต้องพ้นจากราชการเพราะเหตุเกษียณอายุ ให้ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งที่สูงขึ้นในวันที่ 30 กันยายนของปีสุดท้าย ก่อนพ้นจากราชการ
- อนุมัติหลักการให้โรงเรียนเอกชนที่เปิดสอน ปวช.ได้รับเงินอุดหนุนรายบุคคล ตามสิทธิของโรงเรียนการกุศล อัตราร้อยละ 100
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการเพิ่มเติมจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2539 ช่วยเหลือนักเรียนในรูปบัตรค่าเล่าเรียนหรือการอุดหนุนรายบุคคลนักเรียนโรงเรียนเอกชนในอัตราร้อยละ 100 ของค่าใช้จ่ายรายบุคคลนักเรียนภาครัฐ เพิ่มเติมให้แก่นักเรียนประเภทอาชีวศึกษาที่จัดการเรียนการสอนโรงเรียนการกุศลหรือการศึกษาสงเคราะห์ ที่ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษาจากนักเรียน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 เป็นต้นไป โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ให้เจียดจ่ายจากงบประมาณเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนเอกชนค่าจัดการเรียนการสอนที่ได้รับจัดสรร และในปีต่อๆ ไปให้ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อดำเนินการต่อไป
สำหรับโรงเรียนเอกชนการกุศล ประเภทการศึกษาสงเคราะห์โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่นทุกระดับ ในปัจจุบันมีจำนวน 1 โรงเรียน คือ โรงเรียนประชาบำรุง จังหวัดพะเยา ซึ่งเปิดสอนประเภทสามัญศึกษา ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 และได้รับอนุญาตให้เปิดสอนประเภทอาชีวศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 ซึ่งเปิดสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ (พัฒนาโดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา) หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พ.ศ. 2545 (ปรับปรุง พ.ศ.2546) และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ.2546 ประเภทวิชาพาณิชยกรรม/บริหารธุรกิจ สาขาวิชา/สาขางานการบัญชี คอมพิวเตอร์ธุรกิจ และธุรกิจค้าปลีก (ทวิภาคี)
ซึ่งได้มีหนังสือร้องขอว่า ปัจจุบันโรงเรียนได้รับเงินอุดหนุนรายบุคคลสำหรับนักเรียนประเภทสามัญศึกษาในอัตราร้อยละ 100 ส่วนประเภทประกาศนียบัตรวิชาชีพ ได้รับเงินอุดหนุนในอัตราร้อยละ 70 ตามหลักเกณฑ์ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการกำหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล พ.ศ.2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
แต่เนื่องจากโรงเรียนได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนครู ค่าอุปกรณ์ สื่อการเรียนการสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพที่โรงเรียนได้จ่ายไปแล้วตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1/2553 ถึงปัจจุบัน จึงขอปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลสำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพจากอัตราร้อยละ 70 เป็นร้อยละ 100 เพื่อให้เกิดความทัดเทียมกันระหว่างนักเรียนชั้นอนุบาล 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 และนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ โดยเงินอุดหนุนในส่วนที่เพิ่มขึ้นจากอัตราร้อยละ 70 เป็นอัตราร้อยละ 100 ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1/2553 จนถึงปัจจุบัน
ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงมีมติดังกล่าว เพื่อให้เกิดความทัดเทียมกัน รวมทั้งเพื่อเพิ่มสัดส่วนจำนวนนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล
- แต่งตั้งข้าราชการ สพฐ. ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นางสาววีณา อัครธรรม ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านพัฒนากระบวนการเรียนรู้ (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สพฐ. ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2557 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
- รับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... ซึ่งสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง คือ ให้ยกเลิกกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ.2549 และให้จัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ดังนี้ 1) สำนักงานอธิการบดี 2) คณะเกษตรศาสตร์ 3) คณะพยาบาลศาสตร์ 4) คณะแพทยศาสตร์ 5) คณะวิทยาการจัดการ 6) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 7) คณะวิศวกรรมศาสตร์ 8) คณะศิลปศาสตร์ 9) สถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา 10) วิทยาลัยการอาชีพตากใบ 11) วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนราธิวาส และ 12) วิทยาลัยเทคนิคนราธิวาส
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งได้กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาเทคโนโลยี สาขาวิชานิเทศศาสตร์ และสาขาวิชารัฐศาสตร์ เพิ่มขึ้น
ที่มาของข่าว : กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 31 มีนาคม 2558