LASTEST NEWS

23 ธ.ค. 2567ข่าวดี! โรงเรียนสวนกุหลาบฯ เพชรบูรณ์ ประกาศหยุดพิเศษ 2-3 ม.ค. 68 เปิดโอกาสใช้เวลาอบอุ่นกับครอบครัวช่วงปีใหม่ ยาว ๆ 9 วันเต็ม 23 ธ.ค. 2567สพป.อุบลราชธานี เขต 3 ขอใช้บัญชีครูผู้ช่วย สพป.อุบลราชธานี เขต 5 จำนวน 23 อัตรา - รายงานตัว 2 มกราคม 2568 23 ธ.ค. 2567โรงเรียนบ้านหนองบัว รับสมัครครูอัตราจ้าง วุฒิปริญญาตรีทุกสาขา เงินเดือน 6,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 25 ธันวาคม 2567 21 ธ.ค. 2567ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนข้าราชการและค่าจ้างลูกจ้างประจำ ประจำปี 2568 20 ธ.ค. 2567สพป.บึงกาฬ เรียกบรรจุครูผู้ช่วย (ขอใช้บัญชี สพม.หนองคาย) จำนวน 3 อัตรา - รายงานตัว 2 มกราคม 2568 20 ธ.ค. 2567​​​​​​​กรมบัญชีกลาง เปิดสอบพนักงานราชการ 27 อัตรา ไม่ต้องผ่าน ภาค ก ตั้งแต่ 3 - 24 มกราคม 2568 19 ธ.ค. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 ขอใช้บัญชีครูผู้ช่วย เขตอื่น ใช้บรรจุ 2 วิชาเอก 13 อัตรา รายงานตัว 26 ธันวาคม 2567 19 ธ.ค. 2567สพป.มหาสารคาม เขต 2 เผยบัญชีตำแหน่งว่างใช่บรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 5  19 ธ.ค. 2567สพป.อุดรธานี เขต 4 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 45 อัตรา 18 ธ.ค. 2567ผู้บริหาร สพฐ. ร่วมประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 10/2567

มติ ครม.ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา (3 มีนาคม 2558)

  • 04 มี.ค. 2558 เวลา 09:28 น.
  • 5,261
มติ ครม.ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา (3 มีนาคม 2558)

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

มติ ครม.ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา 
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 80/2558
 
ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัย 3 ฉบับ
 
พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 3 มีนาคม 2558 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการว่า ได้เห็นชอบให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยสวนดุสิต มีฐานะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ (ออกนอกระบบ) ส่วนมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ เป็นการควบรวมมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ เข้าด้วยกัน รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
 
>> เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย 3 ฉบับ
 
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย จำนวน 3 ฉบับ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป โดยให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยสวนดุสิต มีฐานะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ (ออกนอกระบบ) ส่วนมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ เป็นการควบรวมมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ เข้าด้วยกัน มีสาระสำคัญ ดังนี้
 
1. ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. .... 
 
  - กำหนดให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีฐานะเป็นหน่วยในกำกับของรัฐ ซึ่งไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ และกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น
  - กำหนดให้มหาวิทยาลัยแบ่งส่วนงานออกเป็น สำนักงานสภามหาวิทยาลัย สำนักงานมหาวิทยาลัย  สำนักงานวิทยาเขต  คณะ วิทยาลัย  สถาบัน สำนักและมหาวิทยาลัยอาจให้มีส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบันหรือสำนัก
  - กำหนดให้มหาวิทยาลัยมีรายได้จากเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปี เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้ และเงินกองทุนที่รัฐบาลหรือมหาวิทยาลัยจัดตั้งขึ้นและรายได้หรือผลประโยชน์จากกองทุน เป็นต้น และให้รายได้ของมหาวิทยาลัยไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
  - กำหนดให้มีสภามหาวิทยาลัยเป็นองค์กรทางการบริหาร โดยมีกรรมการสภามาวิทยาลัยที่มาจากบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัยและองค์กรต่างๆ ในมหาวิทยาลัยและให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด
  - กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยโดยอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเสนอแผนพัฒนามหาวิทยาลัย พิจารณากลั่นกรองระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศ ฯลฯ คณะกรรมการวิชาการที่มีหน้าที่ในการเสนอแนะการกำหนดนโยบายและแผนพัฒนาทางวิชาการของมหาวิทยาลัย ฯลฯ และสภาพพนักงาน เป็นองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ในการ ให้คำปรึกษาและข้อแนะนำแก่สภามหาวิทยาลัยและอธิการบดีในการบริหารกิจการทั้งปวงของมหาวิทยาลัย ฯลฯ
  - กำหนดให้มีอธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด  และรับผิดชอบการบริหารงานของมหาวิทยาลัย กำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด
  - กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษาและการประเมินการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย
  - กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการการบัญชีและการตรวจสอบทางบัญชีและการเงินของมหาวิทยาลัยให้อธิการบดีเป็นผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และให้รัฐมนตรีมีอำนาจและหน้าที่กำกับและดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของมหาวิทยาลัย
  - กำหนดบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สินงบประมาณฯ การดำรงตำแหน่งและคณะกรรมการต่างๆ  ในส่วนราชการ การโอนบรรดาข้าราชการ ลูกจ้างของส่วนราชการ พนักงานของมหาวิทยาลัย  ตำแหน่งทางวิชาการ สิทธิเกี่ยวกับการได้รับบำเหน็จบำนาญ ตลอดจนระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศที่มีอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นต้น
 
 
2. ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสวนดุสิต พ.ศ. ....
 
  - กำหนดให้มหาวิทยาลัยสวนดุสิต มีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ ซึ่งไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ และกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น และมีวัตถุประสงค์ในการให้การศึกษา ส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง สร้างบัณฑิต วิจัย บริการทางวิชาการแก่สังคมและท้องถิ่น ริเริ่ม ปรับปรุง ถ่ายทอด และพัฒนาองค์ความรู้ในด้านที่มีความเชี่ยวชาญและทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม
  - กำหนดการแบ่งส่วนงานของมหาวิทยาลัย กำหนดให้แบ่งเป็น สำนักงานมหาวิทยาลัย สำนักงานวิทยาเขต  คณะ สำนัก สถาบัน และส่วนงานอื่นที่เทียบเท่าคณะ
กำหนดให้มีสภามหาวิทยาลัยเป็นองค์กรทางการบริหาร โดยมีกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่มาจากบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัยและจากตัวแทนองค์กรต่างๆ ในมหาวิทยาลัย โดยมีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการทั่วไปของมหาวิทยาลัยและมีอำนาจออกข้อบังคับเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับ การบริหารงานบุคคล การเงิน การพัสดุ  และทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย รวมทั้งการกำหนดค่าตอบแทนหรือค่าตอบแทนพิเศษ สวัสดิการและประโยชน์อย่างอื่นให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย
  - กำหนดให้มีสภาวิชาการเป็นองค์กรที่ได้รับมอบหมายจากสภามหาวิทยาลัยให้ดำเนินกิจการต่างๆ ทางด้านงานวิชาการของมหาวิทยาลัย มีอำนาจหน้าที่ให้คำปรึกษาและข้อเสนอต่อสภามหาวิทยาลัยและอธิการบดีเกี่ยวกับหลักสูตร  การเรียน การสอน การวิจัย และคุณภาพการศึกษา
  - กำหนดให้สภามหาวิทยาลัยเป็นองค์กรบริหารงานสูงสุดของมหาวิทยาลัย มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการต่างๆ ของมหาวิทยาลัยทั้งด้านการบริหารงานบุคคล การเงินและวิชาการซึ่งมีองค์ประกอบเป็นบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัยมากกว่าบุคลากรในมหาวิทยาลัย
  - กำหนดให้อธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของมหาวิทยาลัย และอาจมีรองอธิการบดีหรือผู้ช่วยอธิการบดี หรืออาจมีรองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดีตามจำนวนที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด
  - กำหนดให้แต่ละคณะหรือส่วนงานอื่นที่เทียบเท่าคณะที่จัดการเรียน การสอน มีคณบดีคนหนึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบงานของคณะหรือส่วนงานอื่นที่เทียบเท่าคณะที่จัดการเรียนการสอน และให้มีคณะกรรมการประจำคณะหรือคณะกรรมการประจำส่วนงานอื่นที่เทียบเท่าคณะที่จัดการเรียนการสอน เพื่อดำเนินกิจการต่างๆ  ทางด้านงานวิชาการของคณะเสนอต่อสภาวิชาการ
  - กำหนดให้มหาวิทยาลัยจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาและการประเมินส่วนงานของมหาวิทยาลัยโดยให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
  - กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมีอำนาจหน้าที่กำกับและดูแลโดยทั่วไป ซึ่งกิจการของมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลหรือมติคณะรัฐมนตรี
  - กำหนดโทษผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการใช้ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ ครุยประจำตำแหน่ง เครื่องแบบ เครื่องหมาย หรือเครื่องแต่งกายของนักศึกษา พนักงานมหาวิทยาลัย และลูกจ้างของมหาวิทยาลัย และการแสดงวุฒิการศึกษาโดยไม่มีสิทธิ
  - กำหนดบทเฉพาะกาลในเรื่องการโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ ภาระผูกพัน งบประมาณ และรายได้ของมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฎ พ.ศ.2547 มาเป็นของมหาวิทยาลัยตามพระราชบัญญัตินี้
  - กำหนดรองรับส่วนงาน กล่าวคือ กำหนดให้สภามหาวิทยาลัย สภาวิชาการ สภาคณาจารย์และข้าราชการ และคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิตตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฎ พ.ศ. 2547 ทำหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะได้มีสภาวิชาการ สภาคณาจารย์และพนักงาน และคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยตามพระราชบัญญัตินี้
  - กำหนดรองรับให้ส่วนราชการของมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฎ พ.ศ. 2547 และหน่วยงานที่สภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติและจัดตั้งขึ้นในมหาวิทยาลัยซึ่งมีอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ คงอยู่ต่อไปจนกว่าจะมีประกาศของมหาวิทยาลัยจัดตั้งส่วนงานใหม่
  - กำหนดรองรับตำแหน่งผู้บริหารเพื่อรองรับการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารตำแหน่งต่างๆ ต่อไปจนครบวาระและกำหนดการแสดงเจตนาเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยไว้
  - กำหนดให้มหาวิทยาลัยดำเนินการบรรจุเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยหรือลูกจ้างของมหาวิทยาลัย ในกรณีที่ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างแสดงเจตนาเปลี่ยนสถานภาพมาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยหรือลูกจ้างของมหาวิทยาลัยภายในสามปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ  รวมทั้งกำหนดรองรับให้ข้าราชการซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการอยู่แล้ว ยังคงสิทธิประโยชน์เดิมตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและได้รับยกเว้นไม่ต้องอยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม แต่ไม่ตัดสิทธิในการประกันตนด้วยความสมัครใจ
  - กำหนดให้มหาวิทยาลัยออกข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของมหาวิทยาลัยเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้แล้วเสร็จภายในสองปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
 
 
3. ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. ....
 
  - กำหนดให้รวมมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ ตามกฎหมายว่าด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ ตามกฎหมายว่าด้วยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล มาจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
  - กำหนดให้แบ่งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยออกเป็นสำนักงานอธิการบดี คณะ วิทยาลัย สถาบัน และสำนัก รวมทั้งอาจให้มีส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ และมหาวิทยาลัยอาจรับสถานศึกษาชั้นสูงหรือสถาบันอื่นเข้าสมทบในมหาวิทยาลัยหรืออาจจัดการศึกษาหรือดำเนินการวิจัยร่วมกับสถานศึกษาชั้นสูงหรือสถาบันอื่นได้ รวมทั้งมีอำนาจให้ปริญญา อนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา
  - สำหรับรายได้ของมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ นอกจากเงินที่กำหนดไว้ในงบประมาณแผ่นดินแล้ว มหาวิทยาลัยอาจมีรายได้จากเงินผลประโยชน์ ค่าธรรมเนียม ค่าปรับและค่าบริการต่างๆ เงินและทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้ รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้มาจากการใช้ที่ราชพัสดุซึ่งมหาวิทยาลัยปกครอง ดูแล หรือใช้ประโยชน์เงินอุดหนุนจากราชการส่วนท้องถิ่นหรือเงินอุดหนุนอื่นที่มหาวิทยาลัยได้รับเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการของมหาวิทยาลัย และรายได้หรือผลประโยชน์อย่างอื่น
  - กำหนดให้สภามหาวิทยาลัยทำหน้าที่ในการบริหารและควบคุมดูแลกิจการทั่วไปของมหาวิทยาลัย โดยประกอบด้วยนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัย โดยตำแหน่ง กรรมการสภามหาวิทยาลัยจำนวนห้าคน
  - กำหนดให้มีสภาวิชาการ ประกอบด้วยประธานและกรรมการที่ได้มาตามข้อบังคับมหาวิทยาลัย มีอำนาจหน้าที่ในการเสนอแนะการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง รวมทั้งเสนอความเห็นและให้คำปรึกษาด้านวิชาการ และเสนอความเห็นเกี่ยวกับการเปิดสอน การรวม และการยกเลิกสาขาสิชาของมหาวิทยาลัยต่อสภามหาวิทยาลัย
  - กำหนดให้มีสภาคณาจารย์และข้าราชการประกอบด้วยประธานและกรรมการ ซึ่งเลือกจากคณาจารย์ประจำ ข้าราชการ และพนักงานราชการในสถาบันอุดมศึกษา มีอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมการปฏิบัติงานและพัฒนาศักยภาพของคณาจารย์ประจำ ข้าราชการ พนักงานในสถาบันอุดมศึกษา และพนักงานราชการ
  - กำหนดให้อธิการบดีซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโดยคำแนะนำของสภามหาวิทยาลัยเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของมหาวิทยาลัย กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งและการพันจากตำแหน่ง คุณสมบัติ  และอำนาจหน้าที่ของอธิการบดี
  - กำหนดให้มีคณบดีซึ่งสภามหาวิทยาลัยเป็นผู้แต่งตั้งเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบการบริหารงานของคณะหรือวิทยาลัย และให้มีรองคณบดีหรือผู้ช่วยคณบดีเพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการตามที่คณบดีมอบหมาย  นอกจากนี้ กำหนดให้มีคณะกรรมการประจำคณะหรือวิทยาลัยมีอำนาจหน้าที่วางนโยบายและแผนงานของคณะหรือวิทยาลัย รวมทั้งพิจารณาหลักสูตรและรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรสำหรับคณะหรือวิทยาลัยเพื่อเสนอต่อสภามหาวิทยาลัย
  - กำหนดตำแหน่งทางวิชาการ กำหนดปริญญาและเครื่องหมายวิทยฐานะ
  - กำหนดบทกำหนดโทษเกี่ยวกับการใช้ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ ครุยประจำตำแหน่ง เครื่องแบบ เครื่องหมายฯ โดยมิชอบ และการปลอม หรือทำเลียนแบบหรือใช้ ซึ่งตรา เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย
  - กำหนดบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการโอนบรรดากิจการ  ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ ภาระผูกพัน งบประมาณและรายได้ องค์ประกอบสภามหาวิทยาลัย การดำรงตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ การโอนบรรดาข้าราชการและพนักงาน การคงฐานะของบรรดาคณะกรรมการ สิทธิการเข้าสู่ตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งเดิม การยุบเลิกตำแหน่ง ตลอดจนข้อบังคับ ระเบียบ หรือประกาศต่างๆ


 
>> อนุมัติร่างกฎกระทรวง ซึ่งออกตามความพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2551 จำนวน 2 ฉบับ
 
 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการ 1) ร่างกฎกระทรวงการเข้าร่วมเป็นเครือข่ายของสถานศึกษาอาชีวศึกษาของเอกชน กับสถาบันการอาชีวศึกษา พ.ศ. .... และ 2) ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคำขอและการพิจารณาเพื่อการจัดการอาชีวศึกษา และการฝึกอบรมวิชาชีพของสถานประกอบการ พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
 
  - ร่างกฎกระทรวงการเข้าร่วมเป็นเครือข่ายของสถานศึกษาอาชีวศึกษาของเอกชนกับสถานบันการอาชีวศึกษา พ.ศ. .... ซึ่งได้กำหนดคำนิยาม “สภาสถาบัน” “สถาบัน” “สถานศึกษาอาชีวศึกษาของเอกชน” และ “เครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ” เพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งกำหนดให้มีหลักเกณฑ์การเข้าร่วมเป็นเครือข่ายของสถานศึกษาอาชีวศึกษาของเอกชนกับสถาบันการอาชีวศึกษา
  - ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคำขอและการพิจารณา เพื่อการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพของสถานประกอบการ พ.ศ. ....  โดยกำหนดคำนิยาม “การจัดการอาชีวศึกษา” “การฝึกอบรมวิชาชีพ” “ครูฝึก” “สถานที่เรียน” “ผู้เรียน” และ “เลขาธิการ” เพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคำขอและการพิจารณา เพื่อการจัดการอาชีวศึกษา และการฝึกอบรมวิชาชีพของสถานประกอบการ
 
 
>> อนุมัติแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญ สพฐ. จำนวน 1 ราย
 
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนรู้ (นักวิชาการศึกษาเชี่ยวชาญ) สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานการศึกษา (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2557 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
 
>> เห็นชอบการขอปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการ ในยูเนสโก และซีมีโอ
 
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการชุดต่างๆ จำนวน 2 คณะ ดังนี้
 
คณะกรรมการ
1. คณะกรรมการฝ่ายการศึกษาของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
 
ปรับ รองศาสตราจารย์ชนะ กสิภาร์ ออกจากการเป็นกรรมการ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมได้
 
2. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยองค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ซีมีโอ) 
 
การปรับปรุงองค์ประกอบ
ปรับ ศาสตราจารย์อดุล วิเชียรเจริญ ออกจากการเป็นกรรมการ 
และแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการดังกล่าว

 
  • 04 มี.ค. 2558 เวลา 09:28 น.
  • 5,261

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : มติ ครม.ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา (3 มีนาคม 2558)

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^