ห้ามติวสอบ ผอ.-รองผอ.สถานศึกษาพบพฤติการณ์เกี่ยวข้องปลดจากกรรมการสอบทันที
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ห้ามติวสอบ ผอ.-รองผอ.สถานศึกษาพบพฤติการณ์เกี่ยวข้องปลดจากกรรมการสอบทันที
กระทรวงศึกษาธิการ-สพฐ.ห้ามคนของตัวเองจัดติวสอบผอ.และรองผอ.สถานศึกษา พบพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการจัดติวให้ปลดออกจากการเป็นกรรมการสอบทันที พร้อมทั้งกำชับให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการป้องกันการทุจริต รวมทั้งมิให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ในการสอบ หากมีเหตุการณ์ใดส่อในทางทุจริตให้รีบรายงานสพฐ.เพื่อแก้ปัญหา
นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้กำหนดปฏิทินการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 4,269 อัตรา แบ่งเป็น รองผอ.สถานศึกษา กลุ่มทั่วไป 623 อัตรา, กลุ่มประสบการณ์ 730 อัตรา, ผอ.สถานศึกษา กลุ่มทั่วไป 1,403 อัตรา, กลุ่มประสบการณ์ 1,513 อัตรา โดยรับสมัครตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม-1 กุมภาพันธ์นั้น ยอดสมัคร 2 วันมีผู้สมัครยื่นสมัคร 1,626 คน แบ่งเป็น รองผอ.กลุ่มทั่วไป 368 คน, กลุ่ม ประสบการณ์ 77 คน , ผอ.สถานศึกษา กลุ่มทั่วไป 790, กลุ่มประสบการณ์ 391คน
อย่างไรก็ตามขณะนี้ สพฐ.ได้ทราบข้อมูลมาว่า มีผู้บริหารและข้าราชการในเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการสอบ มีการจัดติวข้อสอบ และจำหน่ายหนังสือคู่มือเตรียมการสอบทั้งในส่วนของผู้บริหารสถานศึกษาและตำแหน่งครูผู้ช่วยที่จะมีการจัดสอบในลำดับต่อไป ดังนั้นเพื่อให้การจัดสอบเป็นไปอย่างโปร่งใส บริสุทธิ์ยุติธรรม และได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากบุคคลภายนอก จึงได้ส่งหนังสือเวียนถึงผอ.เขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตและผอ.สำนักบริการงานการศึกษาพิเศษ เรื่องมาตรการป้องกันการทุจริตในการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้อำนวยการสถานศึกษา และครูผู้ช่วย โดยกำชับมาตรการทั่วไปทั้งก่อนสอบและหลังสอบ
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในปีนี้ได้มีการกำหนดมาตรการใหม่เพิ่มเติมคือ ห้ามมิให้ผู้บริหารและข้าราชการในสังกัดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือกระทำการใดๆ ที่มีเจตนาเป็นการกวดวิชา จัดทำเอกสารจำหน่วยแจก หรือกระบวนการอื่นใดที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้สอบคัดเลือก และให้สำนักงานเขตพื้นที่ฯ/สำนักบริหารฯ กำหนดบุคคลในทางลับ เพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว หากพบว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการจัดติวให้ปลดออกจากการเป็นกรรมการสอบทันที พร้อมทั้งกำชับให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการป้องกันการทุจริต รวมทั้งมิให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ในการสอบ หากมีเหตุการณ์ใดส่อในทางทุจริตให้รีบรายงานตนเพื่อแก้ปัญหา
ทั้งนี้หากตรวจสอบพบว่าผู้ ใดฝ่าฝืนมาตรการป้องกันฯ ตนจะใช้มาตรการเชิงบริหาร โดยเรียกตัวเข้ามาปฏิบัติราชการในส่วนกลาง และตั้งคณะกรรมการสอบสวน หากพบว่าเป็นพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริตก็จะดำเนินการทางวินัยทันที และในวันสอบจะส่งข้าราชการจากส่วนกลางจำนวน 225 คน ไปประจำทุกศูนย์สอบ เพื่อป้องปรามการทุจริตที่อาจจะเกิดขึ้น และในการสอบครูผู้ช่วยจะทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ส่งผู้ตรวจราชการศธ.ทั้ง 12 เขต เป็นประธานติดตามตรวจสอบด้วย
ที่มาของข่าว: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก