ผู้ผลิตชุดนักเรียนร้องขอปรับราคา
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ผู้ผลิตชุดนักเรียนร้องขอปรับราคา
ผู้ผลิตชุดนักเรียน มอก.ร้องนายกฯ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ขอปรับขึ้นราคาชุดนักเรียน ระบุตั้งแต่ปี 42 ยังไม่มีการปรับราคาเลย
วันนี้(1ธ.ค.)น.ส.วันรวีร์ พูลส์ศิริกุล ประธานชมรมผู้ผลิตชุดนักเรียนมาตรฐานและผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตนได้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือจากผลกระทบอันเนื่องจากนโยบายการแจกเงินค่าเครื่องแบบนักเรียนและขอปรับขึ้นราคา ลงวันที่ 27 พ.ย.2557 ถึง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องจากผู้ประกอบการผลิตเครื่องแบบนักเรียนที่ได้รับเครื่องหมายมีสมาชิก 45 ราย กระจายอยู่ทั่วประเทศ มีกลุ่มแม่บ้านผู้รับตัดเย็บเครื่องแบบนักเรียนกว่า 20,000 ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อนจากการกำหนดราคากลางชุดเครื่องแบบนักเรียน มอก.ของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ตั้งแต่ปี 2542 โดยยังไม่มีการปรับราคาเลย บวกกับนโยบายเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ที่แจกเงินให้ผู้ปกครองหรือนักเรียนนำไปซื้อเครื่องแบบเองตั้งแต่ปี 2552 มาถึงปัจจุบัน โดยพวกตนได้เข้าพบผู้บริหารระดับสูงรวมถึง รมว.ศึกษาธิการตั้งแต่ปี 2554-2556 และ 2557 เพื่อขอให้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งทุกคนได้รับปากที่จะช่วยเหลือ แต่ก็ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือแต่อย่างใด
นางวันรีวัร์ กล่าวต่อว่า ในหนังสือดังกล่าวได้เปรียบเทียบต้นทุนการผลิตปี 2542 และ 2557 โดยระบุว่า ต้นทุนเฉลี่ยของเครื่องแบบนักเรียนในปี 2542 อยู่ที่ 188.35 บาทต่อชุด ขณะที่ปัจจุบันต้นทุนได้เพิ่มเป็น 319 .30 บาท ต่างกันถึง 41% ขณะที่ราคาเครื่องแบบประถมศึกษาอยู่ที่ 180 บาทต่อชุดตั้งแต่ปี 2542 และไม่เคยปรับเลยถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนและสมาชิกกลุ่มผู้ผลิตฯ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือดังกล่าวที่สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา เพื่อขอให้พิจารณาข้อเรียกร้องแล้ว
ด้าน ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นเชิงนโยบาย เรื่องการปรับขึ้นราคาชุดนักเรียนที่ ผู้แทนกลุ่มผู้ผลิตเสนอขอปรับราคาใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)จะมาพิจารณาว่าจะต้องขอทบทวนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้หรือไม่ แต่เท่าที่ดูราคาที่เสนอขอปรับนั้นค่อนข้างสูง
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 1 ธันวาคม 2557