'ธีระเกียรติ'ชี้การศึกษาไทยเหมือน'ตาบอดคลำช้าง'
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ผู้ช่วยรมว.ศธ.ฟันธงการศึกษาไทยเหมือน"ตาบอดคลำช้าง" ชี้แก้ได้"ต้องรู้หน้าตา จึงจะรู้วิธีปลุกช้างฟื้นคืนชีพ"
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกุญแจสำคัญในการปฏิรูปการศึกษาไทย 2 ข้อ 1) การให้ความสำคัญกับการสอนผ่านการพัฒนาครู โดยจัดให้มีการคัดเลือกครูจากหลายสาขาอาชีพ มีการจัดหลักสูตรใหม่ให้สอดคล้องกับผู้เรียน การปฏิรูปอาชีวศึกษา และการพัฒนาโรงเรียน และ 2) การให้อิสระในการทำงานด้านการศึกษา ผ่านการจัดตั้งสภาการศึกษา ที่ปลอดจากการแทรกแซงทางการเมือง และการให้โรงเรียนเป็นนิติบุคคลที่มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับผลงานวิจัยด้านการศึกษาระดับโลก ที่พบว่าปัจจัยต้นๆที่ช่วยยกระดับคุณภาพการเรียนรู้คือ การให้นักเรียนตั้งเป้าหมายในการเรียน การจัดการเรียนการสอนตามพัฒนาการเด็ก ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน และการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ เป็นต้น
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการยังยกตัวอย่างในหลายๆ ประเทศ เช่น ฟินแลนด์ไม่มีการประเมินวิทยฐานะครู แต่ครูจะได้เงินเดือนเพิ่มถ้าสอนเก่งขึ้น ส่วนเรื่องการกระจายอำนาจ ประเทศไทยยังให้อำนาจส่วนกลาง โยกย้ายผู้อำนวยการและครูได้ ขณะที่ต่างประเทศการโยกย้ายจะใช้วิธีเปิดรับสมัครแข่งกัน เรียกว่าเป็นการกระจายอำนาจของจริง
“การปฏิรูปศึกษาไทยเปรียบเสมือนตาบอดคลำช้าง เราคุยกันโดยไม่รู้ของจริงคืออะไร แต่คิดว่าตัวเองรู้ แล้วก็คุยกันนามธรรมมาก ผมก็ไม่ได้รู้เลย แต่คิดว่าอย่างน้อยก็รู้ว่าช้างตายแล้ว แต่ผมคิดว่าตอนนี้เราต้องมี GPS ในคลำช้างให้ถูกทิศถูกทางแล้ว ที่สำคัญต้องยอมรับว่า ช้างมันตายแล้ว อยากรู้ว่าช้างตายหน้าตาเป็นยังไง เพื่อที่จะสามารถปลุกมันขึ้นมา เราต้องรู้ตัวช้าง เราต้องดูวิวัฒนาการว่ามีอะไรบ้าง อย่างน้อยผมคิดว่าเงาของช้างที่ผมเห็นน่าจะใกล้เป็นความจริง เพราะเมื่อดูจากประเทศที่เขามีปัญหามาก่อน และเขาแก้ปัญหาไปในแนวทางนี้ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถูกต้อง”
ร่วมไขกุญแจการปฏิรูปการศึกษาไทย: ใน "เวทีปฏิรูปการเรียนรู้สู่การศึกษาเพื่อคนทั้งมวล" ครั้งที่ 34 จัดโดยสสค.และสสส. โดยได้รับเกียรติจากนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ นำเสนอผ่านกรณีศึกษาโรงเรียนวัดรางบัว กรุงเทพฯ เวลา 13.30-16.30 น. ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่นส์ วันที่ 2 ธันวาคม 2557 ผู้สนใจสามารถรับชมผ่าน www.YOUTUBE.com/QLFThailand และ www.QLF.or.th
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557