สั่ง สพฐ.ทำหนังสือถึงเขตพื้นที่ชะลอย้าย
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
เสมา 1 เร่งรัดองค์กรหลักใช้จ่ายงบฯ
ตั้งเป้าสิ้นปี 59 เพิ่มอาชีวะ 35% สั่ง สพฐ.ทำหนังสือถึงเขตพื้นที่ชะลอย้าย
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ครั้งที่ผ่านมา ตนได้เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจาก ศธ.มีงบฯปี 2556-2557 เหลือจ่ายมากที่สุดคือ 13,198 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในการปรับปรุงซ่อมแซมก่อสร้างอาคารเรียน และจัดซื้อครุภัณฑ์ในสถานศึกษาต่างๆ นอกจากนี้ขอให้องค์กรหลักกำชับไปยังสถานศึกษาให้ใช้จ่ายงบฯอย่างโปร่งใสปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน และขอให้เริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้เสร็จสิ้น
ภายในไตรมาสแรกของปีงบฯนี้ รวมทั้งเร่งดำเนินการใช้จ่ายในส่วนของปีงบฯ 2558 ไปพร้อมๆกันด้วย ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบรายงานตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและนโยบายของตน ทั้ง 10 นโยบายเร่งด่วน และ 7 นโยบายเฉพาะ โดยแต่ละองค์กรหลักจะนำความเห็นต่างๆไปปรับปรุงให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เช่น สัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวศึกษาต่อสายสามัญเมื่อสิ้นปี 2559 ควรเพิ่มเป็นอาชีวศึกษา 35% และสายสามัญ 65%
รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ผู้แทนสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) เข้ายื่นหนังสือขอให้ชะลอการย้ายผู้อำนวยการสถานศึกษาแทนตำแหน่งว่างไว้ก่อน และให้จัดสัดส่วนโควตาในอัตรา 50 : 50 พร้อมทั้ง กันตำแหน่งว่างตามสัดส่วนให้รอง ผอ.สถานศึกษาทั้งในกลุ่มประสบการณ์และกลุ่มทั่วไปได้มีโอกาสสอบบรรจุ เพื่อความเจริญก้าวหน้าตามประเภทของสถานศึกษา เนื่องจากขณะนี้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาได้มีการรับย้ายไปแล้ว 5 เขต หากไม่รีบดำเนินการคงจะรับย้ายจนครบทุกเขต ซึ่งจะมีผลทำให้ไม่มีตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาว่างสำหรับการสรรหาในโอกาสต่อไปนั้น ที่ประชุมขอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยัง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาเพื่อให้ชะลอการย้ายไปก่อน เพราะเรื่องนี้ถือเป็นอำนาจหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ.โดยตรง ไม่ใช่ของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) นอกจากนี้ ตนยังขอให้องค์กรหลักไปช่วยพิจารณาดูว่าจะมีเรื่องใดบ้างที่จะสามารถดำเนินการให้เป็นของขวัญกับประชาชนได้ในปีใหม่นี้ด้วย โดยให้มีรายงานให้ทราบในเดือนหน้า.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 17 ตุลาคม 2557