ผอ.สมศ.กระตุ้นต่อมสำนึกมหาวิทยาลัย ปั้นบัณฑิตคุณภาพหนีบัญชีดำ
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ผอ.สมศ.กระตุ้นต่อมสำนึกมหาวิทยาลัย ปั้นบัณฑิตคุณภาพหนีบัญชีดำ
ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีสถานประกอบการขึ้นบัญชีดำมหาวิทยาลัยบางแห่ง โดยไม่รับบัณฑิตที่จบจากมหาวิทยาลัยเหล่านี้เข้าทำงานว่า ตนทราบมานานแล้วว่า มีบริษัทใหญ่ ๆ ขึ้นบัญชีดำมหาวิทยาลัยไว้ แต่ไม่ได้ประกาศเผยแพร่ชื่อมหาวิทยาลัยสู่สาธารณชน ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่าบริษัททุกแห่งก็ต้องการบัณฑิตที่เก่ง ดี และมีคุณภาพ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะต้องควบคุมคุณภาพของสถาบันอุดมศึกษาอย่างเข้มข้น เพราะหากปล่อยไว้เช่นนี้ผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือ บัณฑิต ซึ่งไม่รู้เลยว่าตนเองเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย หรือหลักสูตรที่มีคุณภาพหรือไม่ และเมื่อเรียนจบแล้วก็ยังไม่รู้ว่าสถานประกอบการจะรับเข้าทำงานหรือไม่
"สิ่งสำคัญที่สุดคือความรับผิดชอบของสถานศึกษา และความทุ่มเทของผู้บริหาร ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยต้อง เร่งปรับปรุง และพัฒนาหลักสูตรให้ได้คุณภาพตามเกณฑ์ของ สกอ. เพราะขณะนี้บางหลักสูตรมีอาจารย์ไม่ครบ หรือคุณวุฒิอาจารย์ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ อุปกรณ์การเรียนการสอนก็ไม่พร้อม สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อผู้เรียนทั้งสิ้น ดังนั้นอย่าให้ผู้เรียนต้องตกเป็นเหยื่อทางการศึกษาอีกเลย หากทุกหลักสูตรปฏิบัติตามเกณฑ์ของ สกอ. คุณภาพก็ต้องเกิดอย่างแน่นอน" ผอ.สมศ. กล่าวและว่า ส่วนกรณีที่สถานประกอบการไม่รับบัณฑิตที่จบจากมหาวิทยาลัยบางแห่ง แม้ว่าหลักสูตรจะผ่านการรับรองจากคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) แล้วนั้น เรื่องนี้คงต้องดูว่าสาเหตุที่สถานประกอบการไม่รับบัณฑิตจากคณะ หรือมหาวิทยาลัยแห่งนี้เพราะอะไร แต่ส่วนตัวมองว่ามหาวิทยาลัยเหล่านี้ในช่วงที่มาขอรับรองหลักสูตรอาจปฏิบัติตามเกณฑ์ของ สกอ. แต่หลังจากนั้นทางคณะ หรือมหาวิทยาลัยคงไม่ได้ปฏิบัติตามเกณฑ์ของ สกอ. จึงทำให้หลักสูตรไม่ได้คุณภาพ
ด้าน ศ.ดร.ภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขาธิการ กกอ. กล่าวว่า เรื่องที่สถานประกอบการขึ้นบัญชีดำมหาวิทยาลัยที่ผลิตบัณฑิตไม่มีคุณภาพนั้น เป็นเรื่องจริงและมีมานานแล้ว แต่คงไม่มีใครนำรายชื่อมาเปิดเผย เพราะเป็นเรื่องภายในและในวงการศึกษาก็รู้กันอยู่ อีกทั้งการที่สถานประกอบการจะขึ้นบัญชีดำว่าจะรับหรือไม่รับบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยใดก็เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งควรกลับมาทบทวนตัวเองว่า การบริหารจัดการด้านใดของมหาวิทยาลัยมีความเสี่ยงที่จะผลิตบัณฑิตออกมาแล้วตกงานก็ต้องเร่งแก้ไขด่วน และวิธีที่ดีที่สุดมหาวิทยาลัยต้องผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพเท่านั้น
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 13 กันยายน 2557