"สอศ."ชงเพิ่ม"ขรก." ของบจ้างพนักงานราชการ 1.4หมื่นคน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
"สอศ."ชงเพิ่ม"ขรก." ผู้สอน-จนท1.4หมื่น ดันอาชีวะอาเซียน
สอศ.เตรียมของบจ้างพนักงานราชการ 1.4 หมื่นคน แบ่งเป็นครู 1 หมื่น ที่เหลือเป็นพนักงานสนับสนุน พร้อมวางแผนพัฒนาอาชีวะไทยไปไกลสู่อาเซียน
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เปิดเผยว่า สอศ.เตรียม 2 ประเด็นนำเสนอต่อ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ เพื่อให้ช่วยผลักดันและสนับสนุนงบประมาณ คือการแก้ไขปัญหาการขาดครูอาชีวะ และเรื่องแผนพัฒนายกระดับอาชีวะไทยไปสู่อาชีวะอาเซียน โดยในส่วนปัญหาขาดแคลนครูนั้น อาชีวศึกษาประสบปัญหาขาดครูและบุคลากรขั้นวิกฤติ ตั้งแต่เมื่อปี 2539 สอศ.มีการขยายวิทยาลัยการอาชีพ 90 แห่งทั่วประเทศ แต่รัฐกลับไม่ให้อัตราครูเพิ่ม จึงต้องกระจายครูที่มีอยู่ ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนครูต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทางวิทยาลัยจึงต้องจ้างครูชั่วคราวเอง โดยใช้งบสนับสนุนรายหัวที่ สอศ.จัดสรรมาจ่ายเป็นเงินเดือนครูเหล่านี้ ขณะที่สถานภาพของครูจ้างสอนก็ไม่มั่นคง ไม่มีการปรับขึ้นเงินเดือนและไม่มีสวัสดิการด้วย ส่วนทางวิทยาลัยเองก็สูญเสียโอกาสที่จะใช้เงินรายหัวพัฒนาอย่างอื่น
ดังนั้น สอศ.จึงต้องการเสนอของบประมาณเพื่อนำมาจ้างพนักงานราชการ จำนวน 14,564 คน โดยแบ่งเป็น จ้างพนักงานข้าราชการครู จำนวน 10,000 คน และพนักงานข้าราชการ (สนับสนุน) 4,564 คน นอกจากนั้นจะขออัตราข้าราชการครูเพิ่มอีก 1,409 คน ให้กับสถาบันการอาชีวศึกษา ทั้งนี้ สอศ.ได้คำนวณสัดส่วนครูต่อผู้เรียนที่เหมาะสมตามเกณฑ์จำเป็น คือ 15,973 คน
เลขาฯ สอศ.กล่าวต่อว่า ในส่วนเรื่องการยกระดับมาตรฐานอาชีวะไทยเพื่อสร้างความเข้มแข็งไปสู่อาชีวะอาเซียน สอศ.ต้องการที่จะพัฒนาระดับอาชีวะไทย ให้ผลิตเด็กที่มีความสามารถและมีคุณภาพ ส่งผลไปถึงฐานการผลิตและเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะนี้ประเทศไทยเป็นแกนนำในกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม และยังเป็นกำลังสำคัญในอาชีวะอาเซียนด้วย ทำให้จำเป็นต้องมีการพัฒนา โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ 1.การพัฒนามาตรฐานอาชีวะของประเทศไทย คือเริ่มจากการพัฒนาครูและผู้บริหารโดยการให้ทุนศึกษาต่อ และมีการฝึกอบรมทั้งในและต่างประเทศ และต่อมาควรจะสร้างความเข้มแข็งของทวิภาคีให้มากขึ้น โดยเน้นการเชื่อมต่อกับสถานประกอบการระหว่างประเทศ และควรจัดครุภัณฑ์ให้มีความพอเพียง พร้อมทั้งยังมีการประกันคุณภาพของผู้ที่จบการศึกษาต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และพัฒนาวิทยาลัยที่มีความชํานาญการเฉพาะทาง เช่น วิทยาลัยไฟฟ้า ก่อสร้างต่างๆ เพื่อเป็นวิทยาลัยที่โดดเด่นเฉพาะ
ในส่วนที่ 2 คือการพัฒนาอาชีวะอาเซียน คือจะมีการพัฒนาหลักสูตรอาชีวะอาเซียนขึ้นเพื่อเป็นมาตรฐานร่วม จากนั้นก็มีการพัฒนาครูและผู้บริหารร่วมกัน เพื่อที่จะจัดการสอนไปในทิศทางเดียวกันและบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพ และจะมีการแลกเปลี่ยนครูและนักศึกษา เน้นเรื่องการเพิ่มปริมาณและระยะเวลาให้เพิ่มขึ้น ยังมีการสานต่อโครงการ 1 ห้องเรียน 3 ประเทศ คือเรียนสาขาเดียวกันใน 3 ประเทศ และจะได้ใบสถิติเกรดที่สามารถใช้ได้ใน 3 ประเทศ สุดท้ายก็ยังมีการร่วมวิจัยเพื่อพัฒนาอาชีวะอาเซียนด้วย สำหรับโครงการชุดดังกล่าวมีงบประมาณบางส่วนที่ดำเนินการอยู่แล้ว ในปี 58 หากได้รับการสนับสนุนจาก รมว.ศธ. ไทยก็จะก้าวสู่การเป็นผู้นำอาชีวะอาเซียนได้เร็วขึ้น.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 9 กันยายน 2557