รู้ทันตัวแสบต้นตอก่อภูมิแพ้
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ความสะอาดของเสื้อ ผ้า เครื่องนุ่งห่มต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว รวมทั้งผ้าปูที่นอน, ปลอกหมอน, ผ้าห่ม และผ้า เช็ดตัว ที่มองเห็นด้วยตาเปล่าแบบไร้ซึ่งคราบไคล อาจแฝงไปด้วยวายร้ายตัวแสบทั้งเชื้อโรค เชื้อรา และไรฝุ่น ที่แอบซ่อนตัวอยู่ในผ้าโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นต้นตอการเกิด “ภูมิแพ้” โรคยอดฮิตของคนเมือง ผลิตภัณฑ์ซักผ้าโอโม อาสาเป็นกูรูแนะนำวิธีการปราบเชื้อโรคและไรฝุ่นในผ้าให้อยู่หมัด เพื่อให้ทุกคนปลอดภัยห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ โดย พญ.วรรณวิพุธ สรรพสิทธิ์วงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ รพ.บำรุงราษฎร์ กล่าวว่า ไรฝุ่นคือสารก่อภูมิแพ้อันดับ 1 คิดเป็นอัตราส่วนสูงร้อยละ 70-90 ของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ในประเทศไทย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศร้อนชื้นเอื้อต่อการเจริญเติบโตได้ดี เมื่อไรฝุ่นอยู่บนผ้าจะผลิตมูลออกมา ซึ่งมูลของไรฝุ่นจะผลิตสารก่อภูมิแพ้ เมื่อร่างกายสัมผัสมูลของไรฝุ่นจะเข้าไปกระตุ้นอาการภูมิแพ้ให้รุนแรงขึ้น ซึ่งมีตั้งแต่ระดับที่น่ารำคาญหรือที่เรียกว่าโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ไปจนถึงระดับอาการรุนแรงขึ้นมาในคนที่ไวต่อสารก่อภูมิแพ้อย่างโรคหอบหืด จนเกิดอาการหอบหืดเฉียบพลันซึ่งมีอันตรายถึงแก่ชีวิต
พญ.วรรณวิพุธ เผยว่า ที่ผ่านมาคนไทยยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาตัวเองจากโรคภูมิแพ้ เพราะอาการเริ่มต้นของโรคยังไม่มีความรุนแรง ทำให้คิดว่าเพียงซื้อยามากินอาการดังกล่าวจะทุเลาลง จึงไม่แปลกที่ทำไมยังมีผู้ป่วยโรคภูมิแพ้เรื้อรังเป็นจำนวนมากในประเทศไทย ดังนั้นการดูแลซักและทำความสะอาดผ้าด้วยผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ช่วยขจัดลึกถึงเชื้อโรคและไรฝุ่นสม่ำเสมอ เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ควรทำให้เป็นนิสัยเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรคและไรฝุ่น
นอกจากนี้ยังมี 5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเชื้อโรค และไรฝุ่น เพื่อเสริมสร้างสุขอนามัยที่ดีให้ทุกคนคือ ควรแยกผ้าที่คาดว่าน่าจะมีเชื้อโรคอยู่มาก อาทิ ผ้ากันเปื้อน, ผ้าเช็ดโต๊ะ ห้ามซักรวมกับผ้าอื่น ๆ, ห้ามนำผ้าที่เปียกฝนลงไปกองสุมไว้ในตะกร้าร่วมกับผ้าอื่น ๆ เพราะเป็นบ่อเกิดกลิ่นอับชื้นและเชื้อราบนเสื้อผ้า, ผ้าที่ถูกเก็บไว้ในลิ้นชักหรือตู้เสื้อผ้าที่มืดทึบมักเป็นอาณาจักรที่ไรฝุ่นชอบใช้ในการแพร่พันธุ์, ไม่ควรตากผ้าหรือเครื่องนอนเพียงอย่างเดียว ต้องซักและทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ช่วยขจัดเชื้อโรคและไรฝุ่นร่วมด้วย และสุดท้ายควรซักทำความสะอาดและตากเสื้อผ้า เครื่องนอนต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 4 กันยายน 2557