กรมบัญชีกลางให้ลุ้น!!ฟัง"ประยุทธ์"ประกาศขึ้นเงินเดือน"1ต.ค."หรือ"1เม.ย." ชี้เงินมีพร้อม
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
กรมบัญชีกลางให้ลุ้น!!ฟัง"ประยุทธ์"ประกาศขึ้นเงินเดือน"1ต.ค."หรือ"1เม.ย." ชี้เงินมีพร้อม
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการปรับขึ้นเงินเดือนแก่ข้าราชการว่า ยังอยู่ที่การพิจารณาและคงไม่สามารถจะบอกได้ว่าปรับขึ้นเมื่อไหร่ และในอัตราเท่าไหร่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของนโยบาย อยากให้ฟังประกาศจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะดีกว่า โดยในส่วนของกรมบัญชีกลางนั้นพร้อมที่จะปรับเงินเดือนทันทีหากจะให้ขึ้น 1 ตุลาคม หรือขึ้น 1 เมษายน ทั้งนี้ในส่วนของงบประมาณด้านเงินเดือนที่จะขึ้นนี้ ยังไม่ได้มีการหารือในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ที่กำลังพิจารณางบประมาณปี 2558 โดยในส่วนของงบประมาณนั้นจะนำมาขึ้นเงินเดือนข้าราชการนั้นแม้ยังไม่บรรจุในงบปี2558 ถ้านโยบายจะให้ขึ้น สามารถใช้เงินคงคลังยังสูงกว่า 3 แสนล้านบาทมาใช้ได้ หรืออาจจะปรับลดงบประมาณในส่วนอื่น เพื่อนำเงินมาจ่ายเงินเดือนก็ได้
"การพิจารณาเรื่องเงินเดือนนั้นต้องดำเนินการให้รอบคอบ เพราะข้าราชการมีหลายระดับ และ มีหลายประเภทของหากจะพิจารณาเพียงระดับเดียว ก็จะเกิดความไม่เป็นธรม โดยขณะนี้ กรมบัญชีกลางได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับอัตราเงินเดือนของส่วนราชการต่างๆ ซึ่งบางแห่งก็มีการกำหนดเงินเดือนได้เอง หรือ รัฐวิสาหกิจก็มีเงินเดือนสูงกว่าระบบราชการทั่วไปอยู่มาก" นายมนัสกล่าว
นายมนัสกล่าวว่าทั้งนี้ในการปรับขึ้นเงินเดือนต้องพิจารณาในแง่เม็ดเงินที่จะมีผลกระทบต่องบประมาณรายจ่ายประจำปีด้วยซึ่งกระทรวงการคลังเตรียมเรียกเงินคืนเข้าจากทุนหมุนเวียนต่างๆที่มีผลการดำเนินงานกองทุนไม่ดีและในกองทุนที่มีเงินเหลือมาก และนำไปฝากทิ้งไว้ในธนาคาร โดยกำหนดวงเงินในการเรียกคืนประมาณ 20% ของวงเงินที่เหลือ คาดว่าจะได้เงินคืนอย่างน้อยอย่างน้อย 12,000 ล้านบาท จาก20 กองทุน อาทิ กองทุนสิ่งแวดล้อม กองทุนอนุรักษ์พลังงาน และ กองทุนมอเตอร์เวย์ โดยเงินดังกล่าวจะถูกนำมาอยู่ในเงินคงคลังเพื่อนำไปใช้ในนโยบายที่มีประโยชน์และจำเป็นต่อไป
นายมนัสกล่าวต่อว่า ในปัจจุบันมีกองทุนหมุนเวียนที่สังกัดกระทรวงต่างๆ ประมาณ 95 กองทุนหมุนเวียน มีเงินอยู่ในระบบถึง 4 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปฝากให้ธนาคารและได้รับอัตราดอกเบี้ย ไม่มากนัก ดังนั้นหากกระทรวงการคลังนำเงินกลับมานำไปใช้ในส่ิงที่จำเป็นน่าจะเป็นประโยชน์กว่า ซึ่งการเรียกเงินคืนจากกองทุนหมุนเวียนั้นเป็นไปตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และเป็นส่วนหนึ่งของร่างพ.ร.บ.บริหารทุนหมุนเวียนที่กรมบัญชีกลางได้เสนอให้กระทรวงการคลังได้พิจารณาโดยวัตถุประสงค์ของร่างกฎหมายดังกล่าวคือ เพื่อให้การบริหารทุนหมุนเวียนมีประสิมธิภาพมากขึ้น สาระสำคัญ คือ จะกำหนดให้มีแรงจูงใจด้านผลตอบแทนของกรรมการและผู้ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 25 สิงหาคม 2557