KRUWANDEE

สพฐ.เล็งชง คสช. ห้องเรียนเทคโนโลยี 3 รูปแบบ ทั้งสมาร์ทคลาสรูม ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ และห้องเรียนอีเลิร์นนิ่ง เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละโรงเรียน หลังสอบถามความคิดเห็นจากหน่วยงานการศึกษาที่เกี่ยวข้อง...

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ความคืบหน้าจัดทำข้อมูลห้องเรียนอัจฉริยะ หรือสมาร์ทคลาสรูม (Smart Classroom) เพื่อเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อยู่ในระหว่างการสำรวจและรวบรวมข้อมูลการจัดการเรียนการสอนด้วยเทคโนโลยีเพิ่มเติม เนื่องจาก คสช.ต้องการให้เสนอข้อมูลอย่างละเอียดและรอบด้าน โดย สพฐ.ได้สอบถามความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ประสานมิตร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร (ICT) ทั้งนี้ พบว่า รูปแบบการใช้เทคโนโลยีมีหลากหลายเกิน 10 รูปแบบ ดังนั้น จะเสนอ คสช.ไปในหลายรูปแบบ โดยไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเป็นห้องเรียนในรูปแบบสมาร์ทคลาสรูม

 

นายกมล กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ คสช.มีมติให้ยุติโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ทั้งในส่วนของการดำเนินโครงการในปีงบประมาณ 2557 และปีงบประมาณ 2556 ในโซน 4 ของนักเรียนชั้น ม.1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ที่ยังค้างอยู่ เพราะเห็นว่าไม่คุ้มค่าและไม่เหมาะสม โดยให้นำงบทั้ง 2 ส่วน รวมแล้วเกือบ 7,000 ล้านบาท มาดำเนินโครงการอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาแทน เบื้องต้นคาดว่าจะเสนอให้ คสช.พิจารณา 3 รูปแบบ ได้แก่ สมาร์ทคลาสรูม ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ และห้องเรียนอีเลิร์นนิ่ง ทั้งนี้ ในส่วนของห้องสมาร์ทคลาสรูมนั้น สพฐ.เคยนำเสนอข้อมูลว่า ห้องสมาร์ทคลาสรูมจะแบ่งเป็น 3 ขนาด เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดของโรงเรียน ดังนี้ โรงเรียนขนาดเล็ก จะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์พกพาประมาณ 20 เครื่อง ใช้งบประมาณห้องละ 300,000 บาท โรงเรียนขนาดกลาง จำนวน 40 เครื่อง ใช้งบประมาณ 400,000 บาท และโรงเรียนขนาดใหญ่ จำนวน 50 เครื่อง ใช้งบประมาณ 600,000 บาท.

 

ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 13 สิงหาคม 2557