18 ล้านคนเฮ คลังเล็งคืนเงินภาษีคนจน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เล็งคืนเงินภาษีคนจน ผู้มีรายได้น้อย ประมาณ 18 ล้านคน คิดเป็น 27.5% ของประชากรทั้งหมด
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สศค.ได้ศึกษาการจ่ายเงินภาษีให้คนจน เพื่อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเห็นชอบ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือและกระจายรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อย มาจากคนที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องจ่ายภาษีให้กับรัฐบาล เพื่อให้คนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ควรได้รับเงินโอนจากรัฐ (การจ่ายเงินภาษีให้กับคนรายได้น้อย) โดยประเมินว่า ภาระที่ต้องโอนเงินภาษีคืนคนมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์จะต้องใช้เงินประมาณ 5.56 หมื่นล้านบาทต่อปี มีผู้ที่ได้รับเงินโอนทั้งหมดประมาณ 18 ล้านคน คิดเป็น 27.5% ของประชากรทั้งหมด
ทั้งนี้ เบื้องต้น สศค.กำหนดให้ผู้ที่ได้รับโอนเงินภาษีจากรัฐจะต้องมีอายุ 15-60 ปี โดยรายได้ตั้งแต่ 1 บาทแรก ไปจนถึง 30,000 บาทต่อปี จะได้เงินโอนภาษีจากรัฐ 20%ของรายได้ที่ได้รับ แต่หากรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อปีขึ้นไปก็จะได้รับโอนเงินภาษีลดลง 12% ของส่วนที่เกิน 30,000 บาท ไปจนถึงรายได้ 80,000 บาท จะไม่ได้รับเงินโอนภาษีจากรัฐ เพราะถือว่ามีรายได้ที่มากพอแล้ว
อย่างไรก็ตาม จะส่งผลให้ผู้มีรายได้ 10,000 บาทต่อปี ได้โอนเงินภาษี 2,000 บาท รายได้ 20,000 บาทต่อปี ได้โอนเงินภาษี 4,000 บาท รายได้ 30,000 บาทต่อปี ได้โอนเงินภาษี 6,000 บาท รายได้ 40,000 บาทต่อปี ได้โอนเงินภาษี 4,800 บาท รายได้ 50,000 บาทต่อปี ได้โอนเงินภาษี 3,600 บาท รายได้ 60,000 บาทต่อปี ได้โอนเงินภาษี 2,400 บาท รายได้ 70,000 บาทต่อปี ได้โอนเงินภาษี 1,200 บาท
"หลักการจ่ายคืนภาษีให้คนมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ จะต้องเป็นคนที่มีรายได้น้อย ต้องเป็นคนทำงาน และต้องเป็นผู้ที่อยู่ในระบบภาษี โดยจากเดิมกรมสรรพากรกำหนดให้ผู้มีรายได้เกิน 30,000 บาทต่อปี ต้องยื่นแบบภาษีกับกรมสรรพากร จะปรับให้มีรายได้ตั้งแต่ 1 บาทแรก ก็ต้องยื่นแบบเสียภาษีกับกรมสรรพากร เพื่อที่จะได้ใช้สิทธิได้รับเงินโอนจากรัฐ
นายกฤษฎา กล่าวว่า มาตรการคืนภาษีคนจนอาจต้องปรับรายละเอียดอีกเล็กน้อย และจะเสนอให้รัฐบาลที่จะมีขึ้นให้เร็วที่สุด เพราะ สศค. เห็นว่าเป็นมาตรการที่จะช่วยลดหรือเลิกโครงการประชานิยม เป็นมาตรการทางการคลังที่ช่วยลดความยากจน แก้ปัญหาการกระจายรายได้ของประเทศ เป็นมาตรการแรงจูงใจให้คนจนมีความขยันในการทำงาน และเป็นการดึงคนเข้ามาอยู่ในระบบภาษี ที่จะใช้เป็นฐานข้อมูลอื่นในการออกมาตรการช่วยคนมีรายได้น้อยต่อไป
ที่มาของข่าว : Smart SME/เที่ยงวันทันกระแส วันที่ 7 สิงหาคม 2557