KRUWANDEE

 ข้าราชการเฮ! คลังรับแผนขึ้นเงินเดือน 8% ดีเลย์ยาวถึง เม.ย.ปีหน้า เหตุกระบวนการพิจารณาซับซ้อน เร่งบัญชีกลางคำนวณตัวเลข เบื้องต้นคาดใช้งบประมาณ 2 หมื่นล้านบาท หวยรัฐเตรียมเสนอแผนรื้อโควตา 43 ล้านฉบับ ให้ คสช.พิจารณาใน 1-2 สัปดาห์นี้ 

 

    นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง  เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กรมบัญชีกลางคำนวณตัวเลขเกี่ยวกับการปรับขึ้นบัญชีเงินเดือนข้าราชการที่ระดับ 8% ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเบื้องต้นจะเป็นการปรับขึ้นบัญชีเงินเดือนให้กับข้าราชการที่มีรายได้น้อยเป็นหลัก เนื่องจากที่ผ่านมาเห็นว่าเงินเดือนที่ได้รับในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและอัตราค่าครองชีพในปัจจุบัน

 

         นอกจากนี้ ยังให้มีการพิจารณาปรับขึ้นเงินค่าครองชีพ จาก 1.5 พันบาท เป็น 2 พันบาท ซึ่งอาจรวมถึงเงินเบี้ยเลี้ยงต่างๆ ด้วย โดยในหลักการต้องพิจารณาปรับให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากที่สุด โดยคาดว่ากระบวนการพิจารณาปรับขึ้นบัญชีเงินเดือนดังกล่าวจะสามารถดำเนินการได้ภายในเดือน เม.ย.2558 ล่าช้าจากเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.2557 โดยหลังจากนี้ฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ต้องมาหารือในรายละเอียดกันอีกครั้ง

 

    “สาเหตุที่เรื่องนี้มีความล่าช้าออกไปจากคาดการณ์เดิมนั้น เพราะต้องมีการจัดทำในรายละเอียดและกระบวนการขั้นตอนต่างๆ ต้องใช้ระยะเวลาพิจารณาอย่างรอบคอบด้วย ส่วนวงเงินที่จะใช้รองรับในส่วนนี้นั้น อาจมีการปรับเปลี่ยน หรือโยกงบประมาณจากโครงการต่างๆ ที่อยู่ในแผนของงบประมาณปี 2558 ที่เหลือมาใส่ในส่วนนี้แทน ซึ่งไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะการพิจารณางบประมาณปี 2558 นั้นยังอยู่ในช่วงแปรญัตติ จึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม” นายรังสรรค์กล่าว

 

    นายรังสรรค์กล่าวอีกว่า เบื้องต้นคาดว่าหากมีการปรับขึ้นบัญชีเงินเดือนข้าราชการในปีงบประมาณ 2558 ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ต.ค.2558 จะใช้งบประมาณราว 2 หมื่นล้านบาท ส่วนตัวเลขงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินการทั้งหมด คงต้องมีการพิจารณากันอีกที เพราะในส่วนนี้จะต้องมีการปรับเพิ่มเงินเดือนของข้าราชการบำนาญรวมอยู่ด้วย

 

    รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังระบุว่า เบื้องต้นจะเป็นการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั้งหมดในระบบ ไม่ใช่เพียงแต่ข้าราชการที่มีรายได้น้อยเท่านั้น โดยคาดว่าจะใช้วงเงินงบประมาณในการดำเนินการทั้งหมด 2.6 หมื่นล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ที่มีการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการปริญญาตรีเป็น 1.5 หมื่นบาทนั้น มีการใช้งบประมาณราว 2.6 หมื่นล้านบาท

 

    นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้ประมาณการผลกระทบเชิงเศรษฐกิจมหาภาคจากกรณีการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการและลูกจ้างประจำ 8% ตามนโยบายของ คสช. จะส่งผลให้ในปีงบประมาณ 2558 ตัวเลขจีดีพีปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.06% และส่งผลให้ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.68% จากคาดการณ์ในปี 2557 ที่ 2.5% โดยยืนยันว่าอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และเป็นไปตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดที่ไม่เกิน 3%

 

    นอกจากนี้ การปรับขึ้นเงินเดือนที่ระดับ 8% ดังกล่าว จะส่งผลให้ในปีงบประมาณ 2558 มีเม็ดเงินส่วนใหญ่เพิ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านทางรายจ่ายประจำของภาครัฐ จำนวน 1.16 หมื่นล้านบาทต่อปี หรือเฉลี่ยไตรมาสละ 3 พันล้านบาท

 

    อย่างไรก็ดี จากข้อมูลของกรมบัญชีกลางระบุว่า ที่ผ่านมาใช้วงเงินในการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานราชการ อยู่ที่ 5.81 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็น เงินเดือนข้าราชการ 5.2 แสนล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 4.34 หมื่นล้านบาท, ค่าจ้างประจำ 3.24 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 2.7 พันล้านบาท, ค่าจ้างชั่วคราว 600 ล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 50 ล้านบาท และค่าตอบแทน (พนักงานราชการ) 2.76 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 2.3 พันล้านบาท

 

    นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ภารกิจหลักในตอนนี้คือการเร่งกระจายโควตาสลากที่หมดอายุ จำนวน 43 ล้านฉบับ ให้เสร็จภายในวันที่ 16 ก.ย. 2557 โดยเบื้องต้นอาจพิจารณามาตรการชั่วคราวออกมาใช้ก่อน และหลังจากนั้นจะเร่งดำเนินการออกมาตรการถาวรออกมารองรับ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปและสามารถเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้

 

    "ยังบอกไม่ได้ว่าจะเพิ่มจำนวนยี่ปั๊วกี่ราย เบื้องต้นคงต้องมีการเปิดรับสมัครและตรวจสอบรายละเอียดด้วย ยอมรับว่าปัจจุบันยี่ปั๊วที่ได้โควตามีจำนวนเยอะมาก แต่ท้ายที่สุดปลายทางก็จะไปรวมเหลือ 1-2 รายเท่านั้น เป็นการผูกขาดเกินไป ซึ่งมาตรการแก้ไขส่วนนี้กำลังพิจารณาอยู่" นายสมชัยกล่าว.

 

ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 7 สิงหาคม 2557