เล็งปัดฝุ่นร่างก.ม.ดูแลพนักงานมหา'ลัย
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
"กำจร"เล็งปัดฝุ่นร่างกฎหมายดูแลระบบพนักงานมหา’ลัย หลังมีการร้องเรียนได้รับเงินเดือนไม่เต็มตามอัตรา เผยการจัดสรรเงินเดือนเป็นอิสระของสถาบัน ชี้ สกอ.ทำได้แค่ปรามให้จ่ายแบบ 1 ต่อ 1
วันนี้ (21 ก.ค.) รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องการจัดสรรค่าตอบแทนให้แก่พนักงานมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อปี 2542 ที่กำหนดว่าสายสนับสนุนจะได้รับ 1.5 เท่าของเงินเดือน ส่วนสายอาจารย์จะได้รับ 1.7 เท่าของเงินเดือน ว่า รัฐบาลจะให้เงินไปทั้งก้อน แต่การจัดสรรค่าตอบแทนตามอัตราดังกล่าวขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของแต่ละมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยบางแห่งจะหักเงินส่วนนี้ไปจัดเป็นสวัสดิการให้แก่พนักงานมหาวิทยาลัย เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตร ขณะที่บางมหาวิทยาลัยให้เงินเต็มตามจำนวน แต่มีการจัดสวัสดิการต่างหากให้อีก ซึ่งเป็นอิสระของมหาวิทยาลัยที่สามารถดำเนินการได้
“การได้รับเงินเดือนเท่ากันทุกมหาวิทยาลัย เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะแต่ละแห่งมีการจัดสวัสดิการ และมีข้อตกลงที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยจะชี้แจงกับพนักงานมหาวิทยาลัยทุกคนก่อนเซ็นต์สัญญา ดังนั้นเมื่อมีการเซ็นต์สัญญาแล้วก็ต้องปฏิบัติตามที่ตกลงกัน แต่หากพนักงานมหาวิทยาลัยได้ไม่ครบ หรือได้น้อยกว่าที่ตกลงกันก็สามารถร้องเรียนมาได้ ” รศ.นพ.กำจร กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้น สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ทำได้เพียงเข้าไปปรามเรื่องการจัดสรรเงินให้เป็นลักษณะ 1 ต่อ 1ได้รับมา 1.7 เท่าก็ควรให้พนักงานมหาวิทยาลัย 1 คน ไม่ใช่นำเงิน 1.7 เท่า ไปแบ่งให้พนักงานมหาวิทยาลัย 4 คน เพราะจะเป็นการเอาเปรียบกัน ทำให้พนักงานมหาวิทยาลัยได้รับเงินเดือนน้อย
เลขาธิการ กกอ.กล่าวด้วยว่า เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา สกอ.เคยร่าง พ.ร.บ.ผู้ปฏิบัติงานในสถาบันอุดมศึกษา เพื่อดูแลระบบพนักงานมหาวิทยาลัย แต่เมื่อนำไปรับฟังความคิดเห็นได้รับเสียงต้านค่อนข้างมาก เพราะ สกอ.บังคับให้มหาวิทยาลัยจัดสิทธิประโยชน์ขั้นต่ำให้แก่พนักงานมหาวิทยาลัย ซึ่งเรื่องนี้พนักงานมหาวิทยาลัยชอบ แต่มหาวิทยาลัยไม่ชอบ ส่วนข้อกำหนดว่าหากปฏิบัติงานไม่ดีสามารถยกเลิกสัญญาจ้างได้ ทางมหาวิทยาลัยชอบ แต่พนักงานมหาวิทยาลัยไม่ชอบ ดังนั้น สกอ. อาจต้องหยิบร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มาทบทวนใหม่อีกครั้ง.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 21 กรกฎาคม 2557