"คุรุสภา"เปิดทาง สาขาอื่นฝึกสอนได้ ชี้เบิกทาง"ตั๋วครู"
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
คุรุสภาเห็นชอบให้ราชภัฏ 4 แห่งส่งเด็กฝึกงานครูใน รร.ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ สมศ.ได้ ขณะเดียวกัน ขอให้ที่ประชุมคณบดีครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ปรับปรุงเกณฑ์การฝึกงานครู ป.ตรี-โท-เอก เพื่อให้ได้ใบประกอบวิชาชีพครู
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นายไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานกรรมการคุรุสภา เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการคุรุสภาว่า ที่ประชุมคุรุสภามีมติเห็นชอบให้คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ที่อยู่ในโครงการกองทุนการศึกษาของสำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรีทั้งหมด 4 แห่ง ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี และมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ให้นักศึกษาสามารถฝึกสอนและปฏิบัติงานโรงเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์รับรองมาตรฐานทางการศึกษาของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพสถานศึกษา (สมศ.) ทั้ง 63 แห่งได้ ทั้งนี้ เนื่องจากเกณฑ์การฝึกสอนของคุรุสภานั้นต้องเป็นโรงเรียนที่ผ่านเกณฑ์ของ สมศ.เท่านั้น ในขณะเดียวกันอุดมศึกษาทั้ง 4 แห่ง ต้องทำสรุปแนวทางการทำงานร่วมกับโรงเรียน และในทางปฏิบัติให้เสนอแนวทาง และแผนการนิเทศก์งานและการทำงานให้กับคุรุสภาทราบด้วยว่าจะปฏิบัติการสอนอย่างไร
ทั้งนี้ คุรุสภามีมติขอให้ที่ประชุมคณบดีครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ เสนอแนวทางการปรับปรุงหลักเกณฑ์และแนวทางในการฝึกปฏิบัติงานของปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก เนื่องจากเกณฑ์การรับรองใบประกอบวิชาชีพใหม่นั้น คนที่เรียนต่อปริญญาโทหรือปริญญาเอกที่ไม่ได้จบสาขาวิชาชีพครู หรือเรียนในด้านการศึกษา จะยังไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ฉะนั้นต้องมีแนวทางการฝึกปฏิบัติวิชาชีพเพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของคุรุสภา เพื่อให้ได้ใบประกอบวิชาชีพครู
นายไพฑูรย์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาได้มีการหารือกรณีที่จะมีการปรับหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาคัดเลือกผู้แทนคุรุสภา ในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาใหม่ โดยให้เขตพื้นที่การศึกษาและสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเสนอชื่อผู้แทนมาอย่างละ 2 คน รวมเป็น 4 คน และให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองสรรหาที่คณะกรรมการคุรุสภาตั้งขึ้นคัดเลือกให้เหลือ 1 คน เพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาเห็นชอบก่อนเสนอที่ประชุม ก.ค.ศ.อนุมัติแต่งตั้ง ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ดังกล่าว และมั่นใจว่าการที่มีคณะกรรมการกลั่นกรอง จำนวน 21 คน จะสามารถกลั่นกรองคนที่เหมาะสมและป้องกันการบล็อกโหวตได้ และเห็นว่ากระบวนการคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส มีความเป็นธรรม ตรวจสอบได้ และตรงไปตรงมามากที่สุด ซึ่งทั้งคณะกรรมการกลั่นกรองสรรหาและคณะกรรมการคุรุสภาต้องตระหนักและระมัดระวังไม่ให้มีระบบเส้นสาย การบล็อกโหวต และการไม่ให้มีตัวแทนนักการเมืองเข้ามา เพราะเรื่องนี้สังคมกำลังจับต้องดูอยู่
“หากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองสรรหาเสนอรายชื่อผู้แทนฯ มาให้บอร์ดคุรุสภาพิจารณา แต่หากเห็นว่าที่เสนอมาขาดคุณสมบัติหรือไม่เหมาะสม ก็สามารถส่งกลับไปเพื่อให้เริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ได้ เช่นเดียวกัน หากบอร์ดคุรุสภาเสนอชื่อไปให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.แล้วไม่ได้รับการอนุมัติ ก็ต้องมาเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่เช่นเดียวกัน” ประธานคณะกรรมการคุรุสภากล่าว.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 3 มิถุนายน 2557