นักเรียนชนบทกับห้องเรียนกลับทาง
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
รายงานพิเศษ..นักเรียนชนบทกับห้องเรียนกลับทาง
ก่อนหน้านี้ นักวิชาการศึกษาแนะนำว่า การแก้ปัญหาการเรียนของเด็กไทย ต้องแก้ทั้งระบบ โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรครู รูปแบบการสอนที่โรงเรียนบ้านท่ากลอย ในฉะเชิงเทรา ที่ให้เด็กๆ รู้สึกเป็นเจ้าของหลักสูตรเอง และคิดวิเคราะห์ได้
คุณครูธานี จันทร์นาง ตั้งโจทย์วิชาวิทยาศาสตร์ให้นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบ้านท่ากลอย อำเภอท่าตะเกียบ ฉะเชิงเทรา โดยให้แบ่งกลุ่ม วางแผน และหาคำตอบในการต่อแผงวงจรไฟฟ้าของกังหันลม ที่จะต้องให้ได้กำลังไฟฟ้าตามที่คุณครูกำหนดให้มากที่สุด
หลังจากที่น้องๆ ได้วางแผนในห้องเรียนเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำกังหันลมออกมาทดลองนอกห้องเรียนแบบนี้ ซึ่งคุณครูบอกว่า วิธีนี้นอกจากช่วยให้เด็กสนุกสนานแล้ว ยังช่วยให้เด็กรู้จักการคิดวิเคราะห์จากบทเรียนที่ได้เรียนมาก่อนหน้านี้
การตั้งอกตั้งใจให้กังหันลมหมุนได้ดีที่สุด ตามกำลังไฟฟ้าที่คุณครูตั้งโจทย์ไว้ ทั้งการปรับองศาและ ลดจำนวนใบพัด รวมถึงการปรับแผงวงจรไฟฟ้าใหม่ จนแก้ปัญหาได้สำเร็จ คือรูปแบบการสอน ให้เด็กได้ใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ไปโดยไม่รู้ตัว ที่สำคัญช่วยปรับทัศนคติใหม่ให้กับเด็กๆ
หลังการทดลอง ครูจะสรุปบทเรียนให้กับเด็ก ๆ อีกครั้ง ช่วยให้เข้าใจมากขึ้น วิธีสอนที่ใช้มาได้ 2 ปี พบว่ากระบวนการคิดวิเคราะห์ของเด็กดีขึ้น เห็นได้จากผลคะแนนโอเน็ต วิชาวิทยาศาสตร์ ที่ปีนี้มีคะแนนเฉลี่ย 34.74 คะแนน แม้จะไม่ใช่คะแนนที่สูงเหมือนกับโรงเรียนในเมือง แต่ก็เป็นสิ่งที่เกินคาดสำหรับโรงเรียนขยายโอกาสเล็กๆ จากคะแนนเฉลี่ยที่เคยได้แค่ 26.55 เมื่อปี 2554 เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษ รูปแบบการเรียนแบบนี้ ช่วยให้เด็กมีทักษะและจดจำคำศัพท์ได้ดีขึ้น ขณะที่คะแนนเฉลี่ยโอเน็ตปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 2 ปีที่แล้ว ถึงร้อยละ 19 สัมพัทธ์
วิธีการสอนแบบคิดวิเคราะห์นี้ ครูผู้สอนอาจต้องเตรียมการสอนที่หนักขึ้น ในการค้นคว้าข้อมูลนอกตำรา ออกแบบการเรียน หาโจทย์ใหม่ ๆ ให้เด็กได้เรียนรู้อย่างสนุก และเข้าใจ รู้สึกเหมือนเป็นเจ้าของหลักสูตร โดยผลการเรียนที่ดี คือผลผลิตที่งดงาม และเป็นความภาคภูมิใจของคุณครู ขณะเดียวกันยังเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของโรงเรียน ที่เป็นอีกตัวอย่างของการปฏิรูประบบการศึกษาให้กับเด็กไทย
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์ครอบครัวข่าว 3 วันที่ 28 มีนาคม 2557