“ไพฑูรย์”ชี้ให้ตั๋วครูอัตโนมัติผิดกฎหมาย
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ประธานบอร์ดคุรุสภาแจงให้ตั๋วครูอัตโนมัติเอื้อคนจบสายอื่นผิดกฎหมาย ยืนยันไม่ปรับเกณฑ์ให้อ่อนลง เผยตั้งคณะทำงานทบทวนการเข้าสู่วิชาชีพครู หาต้นตอปัญหาความยากง่าย
วันนี้ (20พ.ค.) ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานกรรมการคุรุสภา กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอให้คุรุสภาพิจารณาเพื่อหาทางออก ให้แก่ผู้ที่มีความสามารถสอนแต่ไม่จบสายครูให้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู โดยเฉพาะผู้สอนสายอาชีวศึกษา ว่า คุรุสภาให้ความสำคัญเรื่องการเข้าสู่วิชาชีพครูอย่างมาก จึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อทบทวนกระบวนการเข้าสู่วิชาชีพครูทั้งระบบ โดยให้ศึกษาว่าผู้ที่จะเข้าสู่วิชาชีพครูได้มีกลุ่มใดบ้าง มีหลักเกณฑ์และระเบียบอะไรที่ช่วยดูแลและพัฒนาวิชาชีพครูได้อย่างเต็มที่ ซึ่งคุรุสภาต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง และในเร็วๆนี้ คุรุสภาจะจัดประชุมวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลว่าประเทศที่ได้รับการจัดอันดับด้านการศึกษาเป็นที่ 1- 5 ของโลกมีการจัดระบบวิชาชีพครูที่เข้มแข็งอย่างไร
ประธานกรรมการคุรุสภา กล่าวต่อไปว่า ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัด ศธ.ได้แจ้งในที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาว่า จะส่งหนังสือที่เป็นข้อเสนอขององค์กรหลักอย่างเป็นทางการมา รวมถึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลความต้องการครูมาให้คุรุสภาอีกทางหนึ่ง เช่น สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)ต้องการครูสาขาใดบ้าง ซึ่งเวลานี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า บางแห่งก็ผลิตครูสายอาชีพมาก และคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์อุตสากรรมก็ผลิตครูสายอาชีพเช่นกัน แต่คุรุสภาไม่ทราบว่าการผลิตนั้นตรงกับที่สอศ.ต้องการหรือไม่ ทั้งนี้ หากทางสอศ.ต้องการจัดพัฒนาครูเองคุรุสภาก็ไม่ขัดข้อง เพียงแต่ต้องนำหลักเกณฑ์ของคุรุสภาไปปรับใช้ให้ถูกต้อง
“ผมขอชี้แจงว่าหลักเกณฑ์การเข้าสู่วิชาชีพครูในปัจจุบันสมเหตุสมผลแล้ว หากคนสนใจอยากเป็นครูจริงต้องปรับตัวเข้าสู่วิชาชีพให้ได้ ซึ่งมีข้อมูลว่าผู้ที่ต้องการเข้าสู่วิชาชีพครูแต่ไม่จบสายครู ส่วนมากมักจะมาเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต(ป.บัณฑิต)ทางการศึกษา แต่ก็มีอีกส่วนที่ไม่เรียน คือ ผู้ที่สอนสายอาชีวศึกษา ดังนั้น คุรุสภาจึงเตรียมศึกษาเรื่องนี้และนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาเพื่อหาข้อสรุปต่อไป” ศ.ดร.ไพฑูรย์ กล่าวและว่า ข้อเสนอที่จะให้ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพโดยอัตโนมัติ ถือเป็นข้อเสนอที่ผิดกฎหมาย เพราะมี พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยเฉพาะ และยุคนี้ก็เป็นยุควิชาชีพเฉพาะ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดต้องมาคุยกันว่าคนที่สนใจอยากเข้าสู่วิชาชีพที่ไม่อยากพัฒนา หรือ อยากเข้าสู่วิชาชีพโดยอัตโนมัติเพราะเหตุใด แต่จะไม่ปรับหลักเกณฑ์เพื่อทำให้วิชาชีพครูในภาพรวมอ่อนแอลงอีก เพราะปัจจุบันวิชาชีพครูได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอยู่แล้ว ว่า ครูอ่อนไม่พัฒนาตนเอง.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 20 พฤษภาคม 2557