สมศ.จี้สพฐ.แก้ปัญหาโรงเรียนเล็ก
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
เผยพบไม่มีผู้บริหารกว่า170แห่งและไม่ผ่านการประเมินมากถึง9พันแห่งสมศ.เผยพบโรงเรียนขนาดเล็กไม่มีผู้บริหารกว่า 170 แห่ง หรือบางแห่งมีครู แต่ไม่มีนักเรียน จี้ สพฐ.เร่งแก้ไข ควบรวม เพราะยังมีโรงเรียนขนาดเล็กในประเทศถึง 9 พันแห่งที่ไม่ผ่านการประเมินของ สมศ.
ที่โรงเรียนวัดงิ้วเฒ่า จ.เชียงใหม่ นายชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (ผอ.สมศ.) กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมโรงเรียนว่า โรงเรียนนี้ถือเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก และเป็นต้นแบบที่สามารถนำผลการประเมินของ สมศ.ไปพัฒนาการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในการประเมินรอบ 2 ผลการประเมินของโรงเรียนอยู่ในระดับพอใช้ แต่เมื่อประเมินรอบ 3 สามารถพัฒนาจนผ่านการประเมินในระดับดี ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่โรงเรียนดังกล่าวมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาครูไม่ครบชั้น ขาดแคลนงบประมาณ และมีตัวป้อนที่แตกต่างจากโรงเรียนทั่วไป เพราะส่วนใหญ่เป็นเด็กชาติพันธุ์ที่พูดภาษาไทยไม่ได้ เป็นต้น
นายชาญณรงค์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีโรงเรียนขนาดเล็กอีกกว่า 9 พันแห่งที่ยังไม่ผ่านการประเมินของ สมศ. จากโรงเรียนขนาดเล็กทั้งหมด 24,805 โรงเรียน ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการได้รับงบประมาณค่อนข้างน้อย แม้จะได้รับเงินท็อปอัพจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันบางพื้นที่ยังพบปัญหาโรงเรียนไม่มีผู้บริหาร โดยล่าสุดตนได้ลงพื้นที่ใน จ.สุราษฎร์ธานี พบว่ามีโรงเรียนที่ยังไม่มีผู้บริหารถึง 170 โรงเรียน
นอกจากนี้ยังพบว่าในบางจังหวัดมีโรงเรียนที่มีครู แต่ไม่มีนักเรียน ขณะที่บางแห่งมีผู้บริหารมากกว่าหนึ่งคน ซึ่งตรงนี้อยากให้ สพฐ.เร่งแก้ไข เพราะว่าครูและผู้บริหารมีส่วนสำคัญมากในการที่จะพัฒนาคุณภาพการศึกษา ที่ผ่านมา สมศ.พยายามเสนอแนวทางให้มีการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในละแวกเดียว เพื่อให้แชร์ครูและอุปกรณ์การเรียนการสอนร่วมกัน แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน ส่วนความคืบหน้าการประเมินคุณภาพภายนอกรอบ 4 (ปีงบประมาณ 2559-2563) นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำเกณฑ์และตัวบ่งชี้ ซึ่งคงต้องรอความชัดเจนของเกณฑ์การประเมินภายในของสถานศึกษาก่อน เพื่อให้เกณฑ์การประเมินภายในและภายนอกมีความสออดคล้องกัน และไม่สร้างภาระให้แก่ครูมากเกินไป.
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2558