LASTEST NEWS

24 ก.ค. 2567สมศ.ประกาศ ขอความร่วมมือสถานศึกษา งดจัดเตรียมพิธีการต้อนรับ รวมถึงมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้ประเมินทุกรูปแบบ 24 ก.ค. 2567เตรียมตัวให้พร้อม คลอดแล้วปฏิทินสอบทีแคสปี 68 พร้อมวันสอบ TGAT/TPAT และ A-Level 24 ก.ค. 2567รมว.ศึกษาธิการ ปลื้มแก้หนี้ครูเป็นไปตามเป้า นายกฯชื่นชมศธ.ทำได้ดี 23 ก.ค. 2567กองบัญชาการกองทัพไทย เปิดสอบพนักงานราชการ 10 อัตรา วุฒิม.3-ม.6 ตั้งแต่บัดนี้-25 กรกฎาคม 2567 23 ก.ค. 2567กรมพลศึกษา เปิดสอบบรรจุรับราชการ วุฒิปวส.ทุกสาขา เงินเดือน 12,650-13,920 บาท สมัครตั้งแต่ 24 ก.ค. - 7 ส.ค.2567 23 ก.ค. 2567โรงเรียนบ้านขะเนจื้อ เปิดสอบครูอัตราจ้าง วิชาเอกปฐมวัย / ประถมศึกษา รับสมัครตั้งแต่บัดนี้-26 กรกฎาคม 2567 23 ก.ค. 2567สพป.แม่ฮ่องสอน เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 100 อัตรา - รายงานตัว 1 สิงหาคม 2567 23 ก.ค. 2567ศธ.เล็งแก้หนี้ครูระยะยาววางแผนให้ยื่นกู้สหกรณ์ข้ามจังหวัดได้ 23 ก.ค. 2567(( ลิงก์เว็บไซต์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบ ภาค ก และ ภาค ข ตำแหน่งครูผู้ช่วย อาชีวศึกษา ปี 2567 (ภายใน 9 ส.ค.2567) 22 ก.ค. 2567โรงเรียนบ้านระนามพลวง (สมานราษฎร์วิทยาคาร) รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกทั่วไป ค่าตอบแทน 6,000 บาท/เดือน (หกพันบาทถ้วน) ตั้งแต่วันที่ 23-26 ก.ค.2567

เช็กอาการ "โรคแพนิค" คุณเป็นอยู่หรือเปล่า??

usericon

โรคแพนิค (Panic disorder) เป็นโรควิตกกังวลประเภทหนึ่งที่มีลักษณะอาการตื่นตระหนกซ้ำๆ อาการเหล่านี้เป็นความรู้สึกกลัวอย่างกะทันหัน มักมีอาการทางร่างกายร่วมด้วย เช่น เหงื่อออก ตัวสั่น และหัวใจเต้นเร็ว ในบทความนี้ เราจะสำรวจอาการ สาเหตุ และการรักษาโรคแพนิค

อาการของโรคแพนิค:

อาการหลักของโรคแพนิค คืออาการตื่นตระหนก อาการตื่นตระหนกเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและไม่คาดคิด และอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่มีสิ่งกระตุ้นที่ชัดเจน ในระหว่างที่มีอาการแพนิค อาจมีอาการหวาดกลัวหรือหวาดกลัวอย่างรุนแรง ร่วมกับอาการทางร่างกาย เช่น เหงื่อออก ตัวสั่น หัวใจเต้นเร็ว และหายใจถี่ อาการตื่นตระหนกมักเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายนาที แต่บางครั้งอาจกินเวลานานหลายชั่วโมง

นอกจากอาการตื่นตระหนกแล้ว ผู้ที่มีโรคแพนิคยังอาจมีอาการวิตกกังวลอย่างต่อเนื่องหรือกังวลว่าจะเกิดโรคแพนิคขึ้นอีก สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การหลีกเลี่ยงสถานการณ์หรือกิจกรรมบางอย่างที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการแพนิค ซึ่งอาจรวมไปถึงการรบกวนในการใช้ชีวิตประจำวันได้

สาเหตุของโรคแพนิค:

มีปัจจัยหลายประการที่อาจนำไปสู่โรคแพนิคได้ ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม สารเคมีในสมอง และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ความเครียดหรือการบาดเจ็บ อาจมีบทบาททั้งหมด โรคแพนิคยังอาจเกี่ยวข้องกับภาวะสุขภาพจิตอื่นๆ เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล หรือการใช้สารเสพติด

การรักษาโรคแพนิค:

มีวิธีการรักษาที่ได้ผลหลายวิธีสำหรับโรคแพนิค การรักษาโดยทั่วไปคือการผสมผสานระหว่างการใช้ยาและการบำบัด

ยาที่อาจกำหนดสำหรับโรคแพนิคได้แก่ ยาต้านอาการซึมเศร้า เช่น ยากลุ่ม Selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) และเบนโซไดอะซีพีน ซึ่งเป็นยาระงับประสาทที่สามารถช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวลและอาการแพนิคได้

การบำบัดยังมีประโยชน์ในการรักษาโรคแพนิค การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT) เป็นการบำบัดประเภทหนึ่งที่มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนรูปแบบความคิดเชิงลบและพฤติกรรมที่นำไปสู่อาการวิตกกังวลและตื่นตระหนก การบำบัดด้วยการสัมผัส ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค่อยๆ เปิดเผยบุคคลต่อสถานการณ์หรือสิ่งกระตุ้นที่ทำให้หวาดกลัว ยังสามารถช่วยลดความวิตกกังวลและอาการตื่นตระหนกได้อีกด้วย

เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การฝึกหายใจลึก ๆ และการผ่อนคลายกล้ามเนื้อแบบค่อยเป็นค่อยไป อาจช่วยในการจัดการอาการแพนิคได้เช่นกัน

การป้องกันโรคแพนิค:

รักษาวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี:

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคแพนิคคือการรักษาวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการรับประทานอาหารที่สมดุล ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ วิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพสามารถช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคแพนิคได้

จัดการความเครียด:

ความเครียดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคแพนิค การเรียนรู้ที่จะจัดการกับความเครียดนั้นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะเหล่านี้ เทคนิคการจัดการความเครียดที่มีประสิทธิภาพบางอย่าง ได้แก่ การฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การฝึกหายใจลึกๆ หรือการทำสมาธิ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการให้เวลากับงานอดิเรกหรือกิจกรรมที่สนุกสนาน

หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด:

การใช้สารเสพติดรวมถึงยาเสพติดและแอลกอฮอล์สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคแพนิคได้ นอกจากจะเสพติดแล้ว สารเหล่านี้ยังสามารถเปลี่ยนแปลงเคมีในสมองและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคแพนิคได้

โดยสรุป โรคแพนิค เป็นโรควิตกกังวลประเภทหนึ่งที่มีอาการตื่นตระหนกเกิดขึ้นซ้ำๆ อาจเป็นภาวะที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรมจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ด้วยการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงการใช้ยาและการบำบัด ผู้ที่เป็นโรคแพนิคสามารถเรียนรู้ที่จะจัดการกับอาการของตนเองและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักกำลังประสบกับอาการของโรคตื่นตระหนก สิ่งสำคัญคือต้องขอความช่วยเหลือจากบุคลากรทางการแพทย์

แหล่งที่มา: https://biocian.com/health/panic-disorder/
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^