บอกลาปัญหาผิวแห้งกร้าน ด้วย 5 เคล็ดลับ คืนความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ
ผิวแห้งหยาบ ปัญหาที่ต่อยอดให้เกราะคุ้มครองผิวอ่อนแอลง ในทุกๆปีเมื่อถึงเวลาแปลงฤดู อากาศที่เริ่มเปลี่ยนแล้วก็เย็นขึ้น ทำเอาผู้คนจำนวนมากที่มีประสาทสัมผัสของผิวไวต่ออากาศต่างเจอกับปัญญาผิวแห้ง ที่ไม่ใช่เพียงแค่แห้งแตกเพียงแค่นั้น แต่ว่ายังอัปเลเวลถึงขนาดกำเนิดอาการคัน คลำผิวแล้วสาก แข็งกระด้าง แถมลอกเป็นเกล็ดขาวอีกด้วย ซึ่งอาการต่างๆกลุ่มนี้เป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียน้ำให้กับชั้นบรรยากาศรอบๆที่มีความชุ่มชื้นต่ำด้วยการระเหยออก ทำให้ผิวชั้นนอกแห้ง ทั้งยังยังมีผลถึงเกราะคุ้มครองผิว (Skin Barrier) ที่เปรียบได้เสมือนดั่งกำแพงช่วยคุ้มครองปกป้องอันตรายของผิวที่ดีเยี่ยมที่สุด ถูกทำร้ายให้อ่อนแอลง กระทั่งมีช่องว่างที่ทำให้ความชื้นในผิวระเหยออกไป
ไม่เพียงแค่น้ำเพียงแค่นั้นที่ระเหยออกตามช่องว่างพวกนี้ แต่ว่าสิ่งสกปรกขนาดจิ๋ว มลพิษ รวมทั้งแบคทีเรียต่างๆก็สามารถแทรกไปสู่ผิวตามช่องว่างกลุ่มนี้ได้อีกด้วย นำมาซึ่งคือปัญหาผิวหน้าตามมาได้ ยกตัวอย่างเช่น หน้ามัน เป็นสิว กำเนิดริ้วรอย ความหมองคล้ำ ฯลฯ ด้วยเหตุนี้การปลดปล่อยให้ผิวขาดความชื้นก่อให้เกิดผลเสียรวมทั้งสร้างภาระหน้าที่ให้กับผิวได้มหาศาล มาดูแลผิวกล่าวลาผิวแห้งแข็ง คืนความสดชื่นเพื่อผิวที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงด้วย 5 แนวทางการทำให้ผิวเปียกชื้น อิ่มน้ำด้วยตัวเองแบบง่ายๆโดยไม่ต้องขอคืนดีสถานพยาบาลเสียตังค์ราคาสูง
5 เทคนิคกล่าวลาผิวแห้ง คืนผิวเปียกชื้น อิ่มน้ำ
1.กินน้ำเป็นจำนวนมาก
ร่างกายมนุษย์เรามีน้ำถึง 70% ถ้าหากในทุกวันกินน้ำไม่พอ จะนำมาซึ่งการทำให้ผิวได้รับน้ำและก็ความสดชื่นไม่เพียงพอเช่นเดียวกัน ยิ่งในตอนที่อากาศเย็นร่างกายพวกเราจะไม่ค่อยมีเหงื่อก็ยิ่งทำให้ความต้องการกินน้ำน้อยลงน้อยด้วย ทำให้ผิวยิ่งแห้งขาดน้ำได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งต่อยอดให้ผิวแห้งด้าน เกราะคุ้มครองผิวอ่อนแอลงได้ การกินน้ำไม่สะอาดวันละ 8-10 แก้ว หรือตามการคำนวณจากน้ำหนักของแต่ละคน จะช่วยปรับให้ร่างกายรวมทั้งเซลล์ต่างๆได้รับความชื้นที่พอเพียง ร่างกายแจ่มใส ขมีขมัน รวมทั้งยังส่งต่อให้ผิวโดยรวมเปียกชื้นขึ้นได้
2.ทาโลชั่นสำหรับกันแดดเสมอ
ไม่ว่าจะฤดูไหนๆความเข้มข้นของรังสียูวีเอ แสงอัลตราไวโอเลตบีแล้วก็ความร้อนจากแสงตะวันก็มิได้น้อยลงไปเลย เพียงแค่ที่พวกเรารู้สึกไม่แสบร้อนเป็นเพราะเหตุว่าอากาศที่เย็นขี่คอยปลอบใจผิวเอาไว้ ซึ่งคลื่นรังสีและก็ความร้อนจากแสงอาทิตย์สามารถทะลุรังแกคอลลาเจนและก็อีลาสตินให้เสื่อมคุณภาพ ทั้งนำมาซึ่งการทำให้ความชื้นข้างในชั้นผิวน้อยลงตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้การทาโลชั่นที่เอาไว้สำหรับกันแดดอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยปกป้องรักษาส่วนประกอบชั้นผิวที่สำคัญไม่ให้ถูกทำร้าย และก็ช่วยลดการสูญเสียความสดชื่นไปจากผิว ในทางอ้อมได้
3.เพิ่มเติมมอยพบร์ไรเซอร์ให้ผิว
หนึ่งในสารบำรุงผิวที่สำคัญสำหรับการเพิ่มรวมทั้งเก็บกักความชื้นให้ดำรงอยู่กับผิวได้อย่างบาลานซ์เป็น มอยพบร์ไรเซอร์ การบำรุงผิวด้วยมอยพบร์ไรเซอร์เสมอๆข้างหลังแนวทางการทำความสะอาดผิว จะช่วยทำให้ผิวอาจความชื้น ลดจังหวะการเกิดผิวแห้งขาดน้ำ โดยยิ่งไปกว่านั้นในตอนการเปลี่ยนฤดูได้อย่างดีเยี่ยม aviance ONE Moisturizing Drops เซรั่มบำรุงผิวหน้าในแบบอย่างมอยพบร์ไรเซอร์เข้มข้นที่ดูแลปัญหาผิวแห้งแข็ง รอเติมเต็มและก็ล็อกความชื้นให้ผิวได้นานมากขึ้น ถัดจากนี้ไม่ว่าจะพบอากาศแบบไหน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจเรื่องผิวแห้ง ขาดน้ำอีกต่อไป
4.ของกินเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ
คอลลาเจนไม่เพียงแค่ขึ้นชื่อลือนามในเรื่องของความหยืดหยุ่นแล้วก็ลดริ้วรอยให้กับผิวแค่นั้น แม้กระนั้นยังเป็นเยี่ยมในตัวช่วยที่ดูแลและก็อาจจะความชื้นให้แก่ผิวอีกด้วย แต่ว่าเมื่อแก่ขึ้นการสร้างคอลลาเจนกลับต่ำลง ร่วมกับการเช็ดกรังแกจากอนุมูลอิสระจากรังสีในแดด ยิ่งทำให้ผิวแห้งแข็งรวมทั้งกำเนิดริ้วรอยได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น การกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเสมอๆ ดังเช่นว่า ผลไม้จำพวกเบอร์รี อโวคาโด หรือส้มประเภทต่างๆจะช่วยต้านทานอนุมูลอิสระที่จ้องมองเข้าไปรังควานคอลลาเจน รวมทั้งช่วยสร้างคอลลาเจนให้เยอะขึ้นเรื่อยๆ เสริมความชื้น เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยลดความแห้งหยาบของผิวด้วยการดูแลจากด้านในนั่นเอง
5.เสื้อผ้าปกคลุมผิว
ในตอนที่แปลงฤดูหรืออากาศเย็นสบาย ความชื้นที่อยู่ภายในอากาศจะต่ำลง รวมทั้งเมื่อผิวจะต้องสัมผัสกับลมหรืออากาศเย็นนานๆจะมีผลให้น้ำระเหยออกมาจากผิวได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นำมาซึ่งการทำให้ผิวแห้งแข็ง ลอกเป็นเกล็ดขาวและก็คันได้ โดยเหตุนี้ถ้าจำเป็นต้องอยู่ท่ามกลางอากาศเย็นหรือแห้งเป็นระยะเวลานานๆชี้แนะให้สวมเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้านุ่มและก็สบายผิว หุ้มผิวไว้สักนิดสักหน่อยเพื่อช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นรวมทั้งเป็นโล่กำบังลมให้ผิว ลดการสูญเสียน้ำจากผิวหนังให้กับอากาศที่แห้งได้อีกด้วย
ดูแลปัญหาผิวแห้งแข็งจากอากาศที่เปลี่ยนให้กลับมาเปียกชื้นอยู่เป็นประจำ เสริมเกราะคุ้มครองผิวให้แข็งแรง เพียงเท่านี้ไม่ว่าจะกี่ฤดู หรืออากาศหนาวเพียงใดก็สามารถมีผิวสวย ร่างกายแข็งแรงได้ตลอดกาล