โรคสมาธิสั้น หรือ ADHD คืออะไร? ใครเข้าข่ายเป็นสมาธิสั้นบ้าง
โรคสมาธิสั้น หรือ ADHD คืออะไร
สมาธิสั้น หรือ Attention Deficit Hyperactive Disorder หรือที่เรียกย่อๆ ว่า ADHD คือ โรคทางสมองประเภทหนึ่งที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับพัฒนาการตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ โดยสามารถพบได้ในหลายรูปแบบ อาการของเด็กสมาธิสั้นมักจะควบคุมพฤติกรรมตนเองไม่ค่อยได้ ไม่มีสมาธิ, อยู่ไม่นิ่ง, ซุกซน สาเหตุนั้นเกิดจากความผิดปกติของสมองส่วนที่ควบคุมทักษะนั้น ๆ มีปัญหา ซึ่งทำให้การประมวลผลข้อมูลผิดปกติ ส่งผลให้ไม่มีสมาธิ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หุนหันพลันแล่น เป็นต้น
สาเหตุของอาการสมาธิสั้น หรือ ADHD คืออะไร?
1. พันธุกรรม
จากสถิติพบว่า สมาธิสั้นอาจถ่ายทอดทางพันธุกรรมถึงร้อยละ 75 เนื่องจาก ผู้ที่มีอาการสมาธิสั้นมักมีประวัติคนในครอบครัวมีอาการเช่นเดียวกัน
2. ปัจจัยทางสารเคมี
สารสื่อประสาทหลักที่เกี่ยวข้องกับโรคสมาธิสั้นคือ สารโดปามีน (dopamine) โดยเฉพาะบริเวณสมองส่วนหน้า (prefrontal cortex) ซึ่งควบคุมเกี่ยวกับสมาธิและการยับยั้งตัวเอง
3. ปัจจัยทางประสาทสรีรวิทยา
จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีอาการสมาธิสั้นมักมีคลื่นความถี่เธต้า (Theta activity) ในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณสมองส่วนหน้า (Frontal area) และอาจพบ periodic spikes and sharp wave ร่วมด้วย
4. ปัจจัยทางประสาทกายวิภาคศาสตร์
พบการลดลงของขนาดและการทำงานของสมองส่วนหน้า (Prefrontal cortex) เปลือกสมองส่วนหน้า (Anterior cingulate cortex) เซลล์ประสาทที่อยู่ใต้คอร์เท็กซ์ (Globus pallidus, caudate) สมองส่วนทาลามัส (thalamus) และสมองส่วนซีรีเบลลัม (Cerebellum)
5. ปัจจัยทางพัฒนาการ
ปัญหาช่วงตั้งครรภ์ในคุณแม่บางรายอาจทำให้เด็กมีอาการของโรคสมาธิสั้นได้ เช่น การคลอดก่อนกำหนด การติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง การประสบอุบัติเหตุทางศีรษะ เป็นต้น
6. ปัจจัยทางจิตสังคม
การถูกเลี้ยงดูอย่างไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดอาการสมาธิสั้นได้ เช่น การถูกทารุณกรรม การถูกทอดทิ้ง เป็นต้น
อาการของเด็กสมาธิสั้น และ อาการสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ แบ่งออกเป็นกี่ประเภท อย่างไรบ้าง?
โรคสมาธิสั้นพบได้ร้อยละ 6.8% ของประชากร โดยสามารถแบ่งตามลักษณะและกลุ่มอาการได้ ดังนี้
1. กลุ่มอาการที่สัมพันธ์กับการใช้สมาธิ(Inattention)
มีปัญหาด้านการใช้สมาธิ:
เนื่องจากการพัฒนาของระบบประสาทไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ไม่สามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างถูกต้อง และส่งผลต่อกลไกการทำงานของระบบประสาทที่จำเป็นต่อการควบคุมพฤติกรรม จึงอาจส่งผลให้มีอาการสมาธิสั้นได้
พฤติกรรมที่ไม่ได้รับการปรับเปลี่ยน:
ไม่สามารถทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ได้หรือทำงานช้า มีปัญหาในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ วอกแวกและถูกรบกวนได้ง่าย
มักทำของหายหรือลืมของบ่อยๆ
ไม่ค่อยฟังและทำตามคำสั่ง
2. กลุ่มอาการที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น (Impulsivity)
ไม่สามารถควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมของตนเองได้
มักจะพูดหรือทำด้วยความหุนหันพลันแล่น ไม่ค่อยคิดก่อนที่จะทำสิ่งต่างๆ พฤติกรรมเหล่านี้เกิดจากการที่สมองไม่สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆได้ จึงทำให้มักแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกมา
ประสิทธิภาพด้านการเรียนไม่ดีเท่าที่ควร
เนื่องจากพฤติกรรมต่างๆที่ทำให้ไม่สามารถควบคุมตนเองและทำงานตามขั้นตอนได้ ส่งผลให้ไม่มีแรงจูงใจในการเรียนหรือการทำงาน
มีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือคนรอบข้าง
เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นมักจะไม่ค่อยเอาใจใส่กับสิ่งต่างๆ ทำให้ไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์หรือการแสดงออกทางสีหน้า เช่น การยิ้มหรือการขมวดคิ้ว จึงดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยสนใจเพื่อนหรือคนรอบข้างรวมถึงพฤติกรรมต่างๆที่ทำให้ผู้อื่นไม่อยากคุยด้วย
มักไม่รู้แพ้รู้ชนะในการเล่นเกมส์หรือเล่นกีฬา
มักชอบที่จะเอาชนะและไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เป็นเพราะสมองไม่สามารถวิเคราะห์และคาดการณ์สถานการณ์ต่างๆได้ดีเท่าที่ควร
ขาดการวางแผนในการทำงาน
3. กลุ่มอาการที่สัมพันธ์กับการอยู่ไม่นิ่ง(Hyperactivity)
ไม่มีความอดทนและไม่สามารถทำงานที่ต้องใช้สมาธิหรืออยู่นิ่งๆได้
เนื่องจากการทำงานที่ผิดปกติของสมอง ทำให้ไม่สามารถควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อและร่างกายไม่ดีเท่าที่ควร
มีการเคลื่อนไหวหรือขยับร่างกายตลอดเวลา
มักทำพฤติกรรมที่จงใจรบกวนผู้อื่น
4. กลุ่มอาการที่สัมพันธ์กับด้านอารมณ์
อารมณ์แปรปรวนง่าย
วิตกกังวลและไม่มีความมั่นใจในตนเอง
- ภาวะแทรกซ้อนของโรคสมาธิสั้น หรือ ADHD
- โรคที่สามารถเกิดร่วมกับโรคสมาธิสั้นได้
- เทคนิคและวิธีแก้สมาธิสั้นเบื้องต้น
อ่่านต่อได้ที่ : https://www.brainandlifecenter.com/what-is-adhd/