FREEแนวข้อสอบนักวิชาการเงินและบัญชี คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
Cr : https://www.แนวข้อสอบราชการไทย.com/webboard/viewtopic/364
1. การบัญชี หมายถึง
(1) การจัดทำบัญชีรับจ่ายเงินสด
(2) การจัดหาข้อมูลทางการเงินของกิจการค้า
(3) การจดบันทึก รวบรวม และสรุปผลข้อมูลทางการเงิน
(4) การจดบันทึก การจำแนก การสรุปผล และการรายงานเกี่ยวกับการเงิน โดยใช้หน่วยเงินตรา รวมทั้ง การแปลความหมายของผลการปฏิบัติ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 การบัญชี (Accounting) หมายถึง การจดบันทึกรายการหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเงินไว้ในรูปของเงินตรา จัดแยกหมวดหมู่ของรายการที่บันทึก สรุปผล และวิเคราะห์ความหมายของรายการที่ได้จดบันทึกไว้ โดยจัดทำในรูปของรายงานการเงิน
2. งบดุลของกิจการค้าจะแสดงถึง
(1) ผลการดำเนินงานในงวดหนึ่ง ๆ ของกิจการค้า
(2) ฐานะการเงินของกิจการค้า ณ วันใดวันหนึ่ง
(3) สินทรัพย์ หนี้สิน และทุนในรอบระยะเวลาหนึ่ง ๆ ของกิจการค้า
(4) ส่วนของเจ้าของ ณ วันใดวันหนึ่ง
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 2 งบดุล (Balance Sheet) คือ งบที่แสดงฐานะของกิจการ ณ วันใดวันหนึ่งว่า กิจการมี สินทรัพย์ หนี้สิน และทุนจำนวนเท่าใด
3. งบกำไรขาดทุนของกิจการค้า แสดงถึง
(1) ผลการดำเนินงานในรอบระยะเวลาการดำเนินงานหนึ่ง ๆ ของกิจการค้า
(2) ฐานะการเงินของกิจการค้า ณ วันใดวันหนึ่ง
(3) ผลการดำเนินงานกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ณ วันสิ้นปี
(4) การเปรียบเทียบระหว่างรายได้กับค่าใช้จ่ายในแต่ละปี
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 1 งบกำไรขาดทุน (Income Statement) คือ งบที่แสดงผลการดำเนินงานของกิจการ ณ งวดบัญชีหนึ่ง ๆ ว่ากิจการมีรายได้และค่าใช้จ่ายเท่าไร ถ้ารายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายผลต่างคือกำไร
4. กิจการหนึ่งมีสินทรัพย์ 100,000 บาท และมีส่วนของเจ้าของ 60,000 บาท กิจการมีหนี้สินเท่าใด
(1) 160,000 บาท
(2) 100,000 บาท
(3) 60,000 บาท
(4) 40,000 บาท
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 4 จากสมการบัญชี สินทรัพย์รวม = หนี้สินรวม + ทุน (ส่วนของเจ้าของ) 100,000 = 40,000 + 60,000
5. สมการบัญชีที่ถูกต้อง คือ
(1) สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ
(2) สินทรัพย์ – ค่าใช้จ่าย = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ + รายได้
(3) สินทรัพย์ + หนี้สิน = ส่วนของเจ้าของ
(4) ถูกทั้งข้อ 1 และข้อ 3
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 1
6. เมื่อเจ้าของนำสินทรัพย์มาลงทุนจะมีผลกระทบต่อสมการบัญชีคือ
(1) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น
(2) ทำให้สินทรัพย์ลดลงและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น
(3) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและหนี้สินลดลง
(4) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของลดลง
(5) ทำให้สินทรัพย์ลดลงและส่วนของเจ้าของลดลง
ตอบ 1 การบันทึกรายการบัญชีเมื่อเจ้าของกิจการนำทรัพย์สินมาลงทุน
เดบิท บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์เพิ่ม
เครดิต บัญชีประเภททุน xx ทุนเพิ่ม
7. เมื่อซื้อสินทรัพย์เป็นเงินเชื่อ จะมีผลกระทบต่อสมการบัญชีคือ
(1) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของลดลง
(2) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและหนี้สินเพิ่มขึ้น
(3) ทำให้หนี้สินเพิ่มขึ้นและหนี้สินลดลง
(4) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น (5) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและสินทรัพย์ลดลง
ตอบ 2 การบันทึกรายการบัญชีเมื่อซื้อสินทรัพย์เป็นเงินเชื่อ
เดบิท บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์เพิ่ม
เครดิต บัญชีประเภทหนี้สิน xx หนี้สินเพิ่ม
8. เมื่อจ่ายชำระหนี้สิน จะมีผลกระทบต่อสมการบัญชีคือ
(1) ทำให้สินทรัพย์ลดลงและหนี้สินลดลง
(2) ทำให้หนี้สินลดลงและส่วนของเจ้าของลดลง
(3) ทำให้สินทรัพย์ลดลงและส่วนของเจ้าของลดลง
(4) ทำให้หนี้สินลดลงและทรัพย์สินเพิ่มขึ้น
(5) ทำให้เจ้าหนี้ลดลงและเงินสดเพิ่มขึ้น
ตอบ 1 การบันทึกรายการบัญชีเมื่อจ่ายชำระหนี้สิน
เดบิท บัญชีประเภทหนี้สิน xx หนี้สินลด
เครดิต บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์ลด
9. เมื่อเก็บเงินจากลูกหนี้ จะมีผลกระทบต่อสมการบัญชีคือ
(1) ทำให้เงินสดเพิ่มขึ้นและหนี้สินลดลง
(2) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มและสินทรัพย์ลดลง
(3) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น
(4) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มและส่วนของเจ้าของลดลง
(5) ทำให้เงินสดเพิ่มขึ้นและเจ้าหนี้ลดลง
ตอบ 2 การบันทึกรายการบัญชีเมื่อเก็บเงินจากลูกหนี้
เดบิท บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์เพิ่ม
เครดิต บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์ลด
10. หลักการของระบบบัญชีคู่คือ
(1) การจดบันทึกรายการค้าลงในสมุดรายการขั้นต้น
(2) การจดบันทึกรายการค้าลงในบัญชีแยกประเภท
(3) การจดบันทึกรายการค้าทุกรายการจะต้องบันทึกในบัญชีไม่น้อยกว่าสองบัญชีด้วยจำนวนเงินด้านเดบิท และเครดิตเท่ากัน
(4) การจดบันทึกรายการค้าต้องบันทึกทั้งสองด้านคือด้านเดบิทและด้านเครดิต
(5) ถูกทั้งข้อ 1 และข้อ 2
ตอบ 3 หลักการของระบบบัญชีคู่ (Double – Entry Accounting) หมายถึง เมื่อมีรายการทางการค้าเกิดขึ้นทุกรายการต้องนำมาบันทึกไว้ในบัญชีสองด้าน คือ ทางด้านเดบิทและทางด้านเครดิต ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันทั้งสองด้าน แต่จำนวนบัญชีที่ลงนั้นไม่จำเป็นต้องเท่ากัน กล่าวคือ อาจบันทึกทางด้านเดบิทเพียงบัญชีเดียว แต่บันทึกทางด้านเครดิตสองหรือสามบัญชีก็ได้
11. กิจการจะบันทึกรายการทางด้านเดบิทเมื่อใด
(1) สินทรัพย์เพิ่ม, ค่าใช้จ่ายลด, หนี้สินและทุนลด
(2) สินทรัพย์และค่าใช้จ่ายเพิ่ม ส่วนหนี้สิน ทุนและรายได้ลด
(3) สินทรัพย์และรายได้เพิ่ม ส่วนหนี้สิน ทุนและค่าใช้จ่ายลด
(4) สินทรัพย์และหนี้สินเพิ่ม ส่วนทุนและรายได้ ค่าใช้จ่ายลด
(5) ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง
ตอบ 2 เดบิท (Debit) คือ รายการที่ได้บันทึกไว้ทางด้านซ้ายมือของบัญชี ซึ่งถ้าเป็นบัญชีประเภท หนี้สิน ทุน และรายได้ จะทำให้มียอดลดลง แต่ถ้าเป็นบัญชีประเภทสินทรัพย์และค่าใช้จ่าย จะทำให้มียอดเพิ่มขึ้น