วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
เปิดสอบครู เรียกบรรจุครู ดูเว็บครูวันดี
22 พ.ย. 2567โรงเรียนบ้านผารางวังหม้อ(มิตรประชา) รับสมัครครูผู้สอน วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) 22 พ.ย. 2567สพป.ชัยภูมิ เขต 1 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 6 อัตรา - รายงานตัว 25 พฤศจิกายน 2567 22 พ.ย. 2567สพป.อุดรธานี เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 11 อัตรา - รายงานตัว 9 ธันวาคม 2567 22 พ.ย. 2567สพป.พังงา เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 6 จำนวน 5 อัตรา - รายงานตัว 28 พฤศจิกายน 2567 22 พ.ย. 2567สพป.อุบลราชธานี เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 55 อัตรา - รายงานตัว 9 ธันวาคม 2567 22 พ.ย. 2567โรงเรียนสารวิทยา ประกาศปิดเรียนกรณีพิเศษ ช่วงเทศกาลปีใหม่ มีผลหยุดยาว 9 วัน ตั้งแต่ 28 ธ.ค.67 - 5 ม.ค.68 21 พ.ย. 2567กองบัญชาการกองทัพไทย รับสมัครพนักงานราชการ 131 อัตรา สมัครตั้งแต่บัดนี้ - 8 ธันวาคม 2567 21 พ.ย. 2567กรมชลประทาน เปิดสอบบรรจุเข้ารับราชกการ 58 อัตรา สมัครทางอินเทอร์เน็ตตั้งแต่บัดนี้ - 4 ธันวาคม 2567 ตลอด 24 ชั่วโมงไม่เว้นวันหยุดราชการ 20 พ.ย. 2567สพป.สงขลา เขต 3 รับสมัครพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน 11 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. - 2 ธ.ค.2567 20 พ.ย. 2567สพม.เพชรบูรณ์ เรียกบรรจุครูผู้ช่วย ขอใช้บัญชี สพม.นครสวรรค์ และสพม.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ รวม 3 อัตรา - รายงานตัว 28 พ.ย.2567
เป็นพยาบาลคะ อยากโอนไปเป็นครู จะมีโอกาสไหมน้อ แนะนำด้วยคะ
สวัสดีครับผม ชื่อ โจครับ ธุรการ สพป.ชัยนาท ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับผม
สวัสดีครับ ผม sendo5146 สมาชิกใหม่ครับ...ชื่อต่ายครับ
สวัสดีค่ะ..สมาชิกใหม่ค่ะชื่อสุค่ะ
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้
วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย นางสาวณัฐพร ดำรงชาติ
ที่ทำงาน โรงเรียนคอนสวรรค์ ตำบลคอนสวรรค์ อำเภอคอนสวรรค์
จังหวัดชัยภูมิ 36140
บทคัดย่อ
การดำเนินงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อพัฒนาชุดแบบฝึกทักษะแบบร่วมมือ
กันเรียนรู้ (Cooperative Learning) วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 ขึ้นไป (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือกันเรียนรู้ (Cooperative Learning)
วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน
(3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยชุดแบบฝึกทักษะแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (Cooperative Learning) วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ประชากร ที่ใช้ในการดำเนินงานในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนคอนสวรรค์
ปีการศึกษา 2555 จำนวน 192 คน ปีการศึกษา 2556 จำนวน 189 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนคอนสวรรค์ ปีการศึกษา 2556 จำนวน 33 คน ซึ่งผู้วิจัยได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับมอบหมายให้สอน เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงาน ได้แก่ (1) ชุดแบบฝึกทักษะแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (Cooperative Learning) เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (3) แบบสอบถามความพึงพอใจ
ต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะแบบร่วมมือกันเรียนรู้(Cooperative Learning) เรื่อง ระบบ
จำนวนเต็ม วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการทดสอบค่าสถิติ t-test
แบบ Dependent
ผลการศึกษาพบว่า ผลการประเมินของผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อชุดแบบฝึกทักษะ
แบบร่วมมือกันเรียนรู้ (Cooperative Learning) เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม วิชาคณิตศาสตร์ ทั้ง 6 ชุด
อยู่ในระดับที่เหมาะสมมากที่สุดทุกด้าน ประสิทธิภาพของชุดแบบฝึกทักษะแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (Cooperative Learning) เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม วิชาคณิตศาสตร์ ทั้ง 6 ชุด มีประสิทธิภาพ คือ
ชุดที่ 1 เรื่อง จำนวนเต็ม มีประสิทธิภาพ 77.63/76.16 ชุดที่ 2 เรื่อง การบวกจำนวนเต็ม
มีประสิทธิภาพ 77.97/76.36 ชุดที่ 3 เรื่อง การลบจำนวนเต็ม มีประสิทธิภาพ 78.87/76.36
ชุดที่ 4 เรื่อง การคูณจำนวนเต็ม มีประสิทธิภาพ 80.00/76.96 ชุดที่ 5 เรื่อง การหารจำนวนเต็ม มีประสิทธิภาพ 80.40/76.96 ชุดที่ 6 เรื่อง สมบัติของจำนวนเต็ม มีประสิทธิภาพ 76.96/76.56และเฉลี่ยทั้ง 6 ชุด มีประสิทธิภาพ 78.64/76.56 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ และคะแนนเฉลี่ยของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดแบบฝึกทักษะแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (Cooperative Learning) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดแบบฝึกทักษะแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (Cooperative Learning) โดยภาพรวมผู้เรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
เอกวิทย์ ๑ ตำแหน่ง
เอกภาษาอังกฤษ ๑ ตำแหน่ง
เอกภาษาไทย ๑ ตำแหน่ง
ติดต่อ ๐๘๔๑๔๑๐๙๓๔
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง การเคลื่อนที่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา ให้มีจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 มีคะแนนความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยาหลังการเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม และ 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาฟิสิกส์พื้นฐาน เรื่อง การเคลื่อนที่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 โดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา ให้มีจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม รูปแบบการศึกษาเป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Pre-Experimental Design) โดยใช้รูปแบบการวิจัยเป็นแบบ One-Shot Case Study กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนสาวะถีพิทยาสรรพ์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา เรื่อง การเคลื่อนที่ จำนวน 6 แผน 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยาและแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาฟิสิกส์พื้นฐาน สถิติที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และร้อยละ
ผลการศึกษา พบว่า
1) ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ที่เรียนโดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา พบว่าในจำนวนนักเรียน 40 คน มีนักเรียนที่ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม จำนวน 33 คน คิดเป็นร้อยละ 82.50 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาฟิสิกส์พื้นฐาน ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ที่เรียนโดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการแก้โจทย์ปัญหาตามเทคนิคของโพลยา พบว่าในจำนวนนักเรียน 40 คน มีนักเรียนที่ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม จำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 90.00 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้
เรื่อง การใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP กลุ่มสาระการเรียนรู้
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย ศุภลักษณ์ ขวัญแสน ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนติ้ววิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40
ปีที่ศึกษา 2556
บทคัดย่อ
รายงานนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียน
รายวิชา คอมพิวเตอร์เบื้องต้น เรื่อง การใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนจากการใช้เอกสารประกอบ
การเรียน และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1
โรงเรียนติ้ววิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40 ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2556 จำนวน 30 คน ที่ได้จากการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา คอมพิวเตอร์เบื้องต้น เรื่อง การใช้ระบบปฏิบัติการ
Windows XP กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา คอมพิวเตอร์เบื้องต้น เรื่อง การใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1 ที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้สถิติ t – test แบบ Dependent – Sample
ผลการศึกษา พบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา คอมพิวเตอร์เบื้องต้น เรื่อง การใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.96/83.42 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากใช้เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา คอมพิวเตอร์เบื้องต้น เรื่อง การใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจในการใช้เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา คอมพิวเตอร์เบื้องต้น เรื่อง การใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมากที่สุด
สวัสดีครับ ชื่อ จิรภัทร ชื่อเล่นบ๋อม อยู่หนองบัวลำบาก โอ๊ะ ลำภู ครับ สอนศิลปะ (ทัศนศิลป์) แนะนำแนเด้อคร๊าบ
ขอคำปรึกษาเรื่องการสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยหน่อยนะคะ
:em1:
ถ้ามีคำสั่งแต่งตั้งจากสถานศึกษาให้ปฏิบัติการสอนในบ้างรายวิชา แต่สัญญาจ้างเป็นของเขตพื้นที่การศึกษาเป็นเงินงบประมาณจากเขตพื้นที่การ
ศึกษา
เป็นพยาบาลคะ อยากโอนไปเป็นครู จะมีโอกาสไหมน้อ แนะนำด้วยคะ
คาสิโนออนไลน์| casino online | gclub
สวัสดีครับผม ชื่อ โจครับ ธุรการ สพป.ชัยนาท ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับผม
สวัสดีครับ ผม sendo5146 สมาชิกใหม่ครับ...ชื่อต่ายครับ
สวัสดีครับทุกท่าน ผมเอกสังคมศึกษา สอบขึ้นบัญชีที่สพม.36 ได้ที่ท้ายๆ ไม่รู้จะได้เรียกรึเปล่า รอต่อไปครับ
สวัสดีค่ะ..สมาชิกใหม่ค่ะชื่อสุค่ะ