รายงานการพัฒนาการใช้บทเรียนสำเร็จรูปกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและ
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาการใช้บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ เรื่อง ความเป็นมาของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนบ้านแยงมิตรภาพที่ 146 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3
ผู้รายงาน นายพร้อม หุ่นทอง ครูโรงเรียนบ้านแยงมิตรภาพที่ 146
ปีที่ศึกษา พ.ศ. 2555
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ เรื่อง ความเป็นมาของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านแยงมิตรภาพที่ 146 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูปที่ผู้รายงานพัฒนาขึ้น และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ เรื่อง ความเป็นมาของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านแยงมิตรภาพที่ 146 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 38 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง ความเป็นมาของชาติไทย จำนวน 6 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นข้อสอบปรนัยแบบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก ที่มีค่าความเชื่อมั่น .83 และแบบสอบถามความพึงพอใจการใช้บทเรียนสำเร็จรูปมีค่าความเชื่อมั่น .87 สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติพื้นฐาน ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนและหลังการทดลองโดยใช้ t-test for dependent samples ผลการศึกษาพบว่า บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง ความเป็นมาของชาติไทย มีประสิทธิภาพ 80.31/82.66 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 เป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใน t – distribution พบว่า มีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ เรื่อง ความเป็นมาของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พึงพอใจมาก ( = 4.16, S.D. = 0.68 )
วัฒนธรรม สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ เรื่อง ความเป็นมาของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนบ้านแยงมิตรภาพที่ 146 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3
ผู้รายงาน นายพร้อม หุ่นทอง ครูโรงเรียนบ้านแยงมิตรภาพที่ 146
ปีที่ศึกษา พ.ศ. 2555
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ เรื่อง ความเป็นมาของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านแยงมิตรภาพที่ 146 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูปที่ผู้รายงานพัฒนาขึ้น และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ เรื่อง ความเป็นมาของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านแยงมิตรภาพที่ 146 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 38 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง ความเป็นมาของชาติไทย จำนวน 6 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นข้อสอบปรนัยแบบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก ที่มีค่าความเชื่อมั่น .83 และแบบสอบถามความพึงพอใจการใช้บทเรียนสำเร็จรูปมีค่าความเชื่อมั่น .87 สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติพื้นฐาน ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนและหลังการทดลองโดยใช้ t-test for dependent samples ผลการศึกษาพบว่า บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง ความเป็นมาของชาติไทย มีประสิทธิภาพ 80.31/82.66 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 เป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใน t – distribution พบว่า มีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ เรื่อง ความเป็นมาของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พึงพอใจมาก ( = 4.16, S.D. = 0.68 )