การพัฒนาผลสัมฤทธิ์เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคบันได 6
ชื่อวิจัย : การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องการอ่านจับใจความสำคัญของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดราชบพิธ ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น
ชื่อวิจัยภาษาอังกฤษ : The Development of Learning Achievement in the Thai Language on Reading for Main idea of Mathayomsuksa 3 Students Rajabopit School by Method of Organizing Learning Using The 6 Step Ladder Technique.
ชื่อผู้วิจัย : นายธนพล แซ่คู ครูชำนาญการ โรงเรียนวัดราชบพิธ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ปีที่ทำการวิจัย : ปีการศึกษา 2566
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องการอ่านจับใจความสำคัญของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดราชบพิธ ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดราชบพิธ ปีการศึกษา 2566 จำนวน 1 ห้องเรียน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยผู้วิจัยได้สุ่มห้องเรียนด้วยวิธีการจับฉลากมาเป็นกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1 ห้องเรียน จากจำนวน 12 ห้องเรียน รวมจำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 32 คน เครื่องมือที่ใช้การวิจัยคือ 1) แผนการจัดการจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความสำคัญด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น 2) สื่อและเอกสารประกอบการเรียนเรื่องการอ่านจับใจความสำคัญด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องการอ่านจับใจความสำคัญด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ 1) สถิติพื้นฐาน 2) การทดสอบค่าสถิติ t-test Independent และ 3) สูตรคะแนนเพิ่มสัมพัทธ์ (คะแนนพัฒนาการ) ของ ศิริชัย กาญจนวาสี ผลการวิจัย พบว่า 1) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อ 1 2) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น มีค่าพัฒนาการสูงขึ้นมีจำนวนร้อยละ 100 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อ 2 ข้อสังเกตของงานวิจัยนี้เป็นเรื่องของบทความที่นำมาให้นักเรียนอ่าน อาจเป็นบทความทั่วไป หากจะให้นักเรียนนำไปใช้ได้ดีมากขึ้นอาจจะจำเป็นต้องคัดลอกบทความจากหนังสือเรียนในรายวิชาต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนเข้าใจแนวทางในการจับใจความสำคัญจากหนังสือเรียน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาต่าง ๆ อย่างรอบด้าน และสร้างคุณลักษณะติดตัวนักเรียนสำหรับนำทักษะดังกล่าวไปปรับใช้ในการเรียนในระดับที่สูงขึ้นได้ต่อไป
คำสำคัญ : การอ่านจับใจความสำคัญ, บันได 6 ขั้น
ชื่อวิจัยภาษาอังกฤษ : The Development of Learning Achievement in the Thai Language on Reading for Main idea of Mathayomsuksa 3 Students Rajabopit School by Method of Organizing Learning Using The 6 Step Ladder Technique.
ชื่อผู้วิจัย : นายธนพล แซ่คู ครูชำนาญการ โรงเรียนวัดราชบพิธ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ปีที่ทำการวิจัย : ปีการศึกษา 2566
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องการอ่านจับใจความสำคัญของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดราชบพิธ ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดราชบพิธ ปีการศึกษา 2566 จำนวน 1 ห้องเรียน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยผู้วิจัยได้สุ่มห้องเรียนด้วยวิธีการจับฉลากมาเป็นกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1 ห้องเรียน จากจำนวน 12 ห้องเรียน รวมจำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 32 คน เครื่องมือที่ใช้การวิจัยคือ 1) แผนการจัดการจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความสำคัญด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น 2) สื่อและเอกสารประกอบการเรียนเรื่องการอ่านจับใจความสำคัญด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องการอ่านจับใจความสำคัญด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ 1) สถิติพื้นฐาน 2) การทดสอบค่าสถิติ t-test Independent และ 3) สูตรคะแนนเพิ่มสัมพัทธ์ (คะแนนพัฒนาการ) ของ ศิริชัย กาญจนวาสี ผลการวิจัย พบว่า 1) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อ 1 2) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น มีค่าพัฒนาการสูงขึ้นมีจำนวนร้อยละ 100 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อ 2 ข้อสังเกตของงานวิจัยนี้เป็นเรื่องของบทความที่นำมาให้นักเรียนอ่าน อาจเป็นบทความทั่วไป หากจะให้นักเรียนนำไปใช้ได้ดีมากขึ้นอาจจะจำเป็นต้องคัดลอกบทความจากหนังสือเรียนในรายวิชาต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนเข้าใจแนวทางในการจับใจความสำคัญจากหนังสือเรียน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาต่าง ๆ อย่างรอบด้าน และสร้างคุณลักษณะติดตัวนักเรียนสำหรับนำทักษะดังกล่าวไปปรับใช้ในการเรียนในระดับที่สูงขึ้นได้ต่อไป
คำสำคัญ : การอ่านจับใจความสำคัญ, บันได 6 ขั้น