LASTEST NEWS

03 ก.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศตำแหน่งว่างรับย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 03 ก.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศตำแหน่งว่างรับย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 02 ก.ค. 2567ด่วน! สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 182 อัตรา - รายงานตัว 5 ก.ค.2567 02 ก.ค. 2567สพป.หนองคาย เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 2 จำนวน 23 อัตรา - รายงานตัว 15 กรกฎาคม 2567 02 ก.ค. 2567โรงเรียนวัดสมุทรธาราม รับสมัครครูอัตราจ้าง ทุกสาขาวิชาเอก เงินเดือน 6,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 2 - 8 กรกฎาคม 2567 02 ก.ค. 2567สพป.อุดรธานี เขต 2 เรียกบรรจุพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน 9 อัตรา - รายงานตัว 8 ก.ค.2567 02 ก.ค. 2567สพม.ตาก เรียกบรรจุครูผู้ช่วย จำนวน 8 อัตรา - รายงานตัว 10 ก.ค.2567 02 ก.ค. 2567โรงเรียนวาปีปทุม รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกศิลปะ เงินเดือน 12,000.-บาท ตั้งแต่วันที่ 3-7 กรกฎาคม 2567 02 ก.ค. 2567สพฐ.เปิดแนวทางการหักเงิน 7 ขั้น แก้ปัญหาหนี้ครูและบุคลากร 02 ก.ค. 2567ข่าวดี!!! สำหรับน้อง ๆ ม.ปลาย ทั่วประเทศ กรมประชาสัมพันธ์ ขยายเวลา รับสมัครเข้าร่วมประกวดสื่อสร้างสรรค์ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท 

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก

usericon


ชื่อเรื่อง     การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้วิธีการศึกษาชั้นเรียน
ผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูโรงเรียนวัดสโมสร
ผู้วิจัย     ชมพูนุช มาโยธา
ตำแหน่ง    รองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการชำนาญการ
ปีที่ทำวิจัย     2566
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้วิธีการศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูโรงเรียนวัดสโมสร มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้วิธีการศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูโรงเรียนวัดสโมสร ดำเนินการวิจัย 3 ขั้นตอน โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ และแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้วิธีการศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูโรงเรียนวัดสโมสร 3) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้วิธีการศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูโรงเรียนวัดสโมสร ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารและครูโรงเรียน วัดสโมสร จำนวน 40 คน เลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) โดยเลือกจาก ผู้อำนวยการสถานศึกษา 1 คน ครูผู้สอนระดับชั้นปฐมวัย 5 คน ครูผู้สอนระดับชั้นประถมศึกษา จำนวน 26 คน และ ครูผู้สอนระดับชั้นมัธยมศึกษา จำนวน 8 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบประเมินการจัดการเรียนรู้เชิงรุกและคู่มือการใช้รูปแบบ ดำเนินการทดลอง จำนวน 30 ชั่วโมง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา
สรุปผลการวิจัย พบว่า
1) สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก (x-bar =4.26, S.D.=.52) และแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก คือ การเรียนรู้ร่วมกันผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพในการพัฒนาครูให้ทำงานร่วมกันด้วยกระบวนการของการศึกษาชั้นเรียนร่วมกัน 2) ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ซึ่งประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการของรูปแบบ วัตถุประสงค์ของรูปแบบ เนื้อหาของรูปแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ และการวัดและประเมินผล โดยกระบวนการจัดการเรียนรู้ มี 5 ขั้น ได้แก่ ขั้น 1 รวมพลังสร้างความเข้มแข็งของทีม ขั้น 2 พัฒนางานแบบมีส่วนร่วม ขั้น 3 การจัดการเรียนรู้สู่การปฏิบัติจริง ขั้น 4 สะท้อนคิดและแลกเปลี่ยน ขั้น 5 การวิจัยเชิงปฏิบัติการ การตรวจสอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ความเหมาะสมของรูปแบบภาพรวมอยู่ในระดับมาก 3) ผลการนำไปใช้ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้วิธีการศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 40 คน พบว่า การจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้วิธีการศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูโรงเรียนวัดสโมสร มากกว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด ร้อยละ 70.0 (3.50 คะแนนขึ้นไป) เท่ากับ 4.22 คะแนน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้วิธีการศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูโรงเรียนวัดสโมสร พบว่า การประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้วิธีการศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูโรงเรียนวัดสโมสร ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( x-bar= 4.28, S.D. = .48)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^