การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่
ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียน
สรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางสาวเกษมศรี ศุภสรณาคม
ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2566
บทคัดย่อ
การวิจัยการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียน
สรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนพัฒนาการด้านทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ ๒ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา ปีการศึกษา 2566 จำนวน 36 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Radom Sampling) ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ทำการทดลองสอนด้วยตนเองตามตารางเรียนที่โรงเรียนกำหนดให้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าประกอบไปด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นจำนวน 6 แผน ๆ ละ 2 คาบ ๆ ละ 50 นาที จำนวน 12 คาบ ทำการทดสอบก่อนและหลังการจัดกิจกรรม ผลการวิจัยพบว่า
1) ประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 75.23 / 76.70 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 75/75 2) คะแนนพัฒนาการด้านทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้อย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จึงสรุปได้ว่า การจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ ๒ นี้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นกว่าก่อนเรียน 3) ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิผลของคะแนนมีค่าเท่ากับ 0.5730 แสดงว่าหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านแล้วนักเรียนมีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นร้อยละ 57.30
จากการวิจัยครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นี้ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น ทำให้ผู้เรียนได้มีการเรียนรู้ มีการใช้ความคิดอย่างเป็นระบบและจัดระเบียบความคิด ทั้งยังสามารถสรุป ความคิดเป็นของตนเองได้ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยในการกระตุ้นความจำจึงน่าจะเป็นวิธีการที่จะสามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนไปปรับประยุกต์ใช้กับเนื้อหาอื่นๆที่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับคำศัพท์ในหมวดต่างๆ หรือเนื้อหาหลักไวยากรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนต่อไป
คำสำคัญ การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping
สรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางสาวเกษมศรี ศุภสรณาคม
ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2566
บทคัดย่อ
การวิจัยการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียน
สรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนพัฒนาการด้านทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ ๒ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา ปีการศึกษา 2566 จำนวน 36 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Radom Sampling) ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ทำการทดลองสอนด้วยตนเองตามตารางเรียนที่โรงเรียนกำหนดให้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าประกอบไปด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นจำนวน 6 แผน ๆ ละ 2 คาบ ๆ ละ 50 นาที จำนวน 12 คาบ ทำการทดสอบก่อนและหลังการจัดกิจกรรม ผลการวิจัยพบว่า
1) ประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 75.23 / 76.70 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 75/75 2) คะแนนพัฒนาการด้านทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้อย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จึงสรุปได้ว่า การจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ ๒ นี้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นกว่าก่อนเรียน 3) ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิผลของคะแนนมีค่าเท่ากับ 0.5730 แสดงว่าหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านแล้วนักเรียนมีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นร้อยละ 57.30
จากการวิจัยครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นี้ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น ทำให้ผู้เรียนได้มีการเรียนรู้ มีการใช้ความคิดอย่างเป็นระบบและจัดระเบียบความคิด ทั้งยังสามารถสรุป ความคิดเป็นของตนเองได้ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยในการกระตุ้นความจำจึงน่าจะเป็นวิธีการที่จะสามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนไปปรับประยุกต์ใช้กับเนื้อหาอื่นๆที่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับคำศัพท์ในหมวดต่างๆ หรือเนื้อหาหลักไวยากรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนต่อไป
คำสำคัญ การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนทักษะการเชื่อมโยงความคิดการอ่านไปสู่การเขียนสรุปความโดยใช้ Mind mapping