การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ SMILE
ผู้วิจัย นางสาวเรวดี เพ็ญศรี
ปีการศึกษา 2565
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ SMILE เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ด้านทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ SMILE เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ด้านทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ SMILE เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ด้านทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ดังนี้ 2.1) ศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบ SMILE ด้านทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ก่อนเรียนและหลังเรียน รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ 2.2) ศึกษาผลการประเมินทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรมของผู้เรียน ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบ SMILE ด้านทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ 2.3) ศึกษาความ พึงพอใจของผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบ SMILE เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ด้านทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ
ขั้นตอนในการวิจัย มี 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การสร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ระยะที่ 2 การตรวจสอบคุณภาพและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ และระยะที่ 3 การใช้และประเมินประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนที่เรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ของโรงเรียนศรีสำโรงชนูปถัมภ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 2 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 79 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้เรื่อง โลกในเอกภพ จำนวน 9 แผนการจัดการเรียนรู้ ใช้เวลา 18 คาบ พร้อมคู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง โลกในเอกภพ จำนวน 30 ข้อ 3) แบบประเมินทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม จำนวน 24 ข้อ และ4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ จำนวน 15 ข้อ ทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยหาประสิทธิภาพของประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนเรื่อง โลกในเอกภพ โดยการทดสอบค่าที (t – test) หาค่าเฉลี่ยร้อยละของการประเมินทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม และหาระดับความพึงพอใจของผู้เรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ SMILE เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ด้านทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ โดยหาค่าเฉลี่ย ("X" ̅) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้วนำไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่ตั้งไว้
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ SMILE เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 ด้านทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ มีประสิทธิภาพ85.65/80.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ SMILE เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 ด้านทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ สูงกว่าก่อนการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01
3. หลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่มีขั้นตอนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ SMILE เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 ด้านทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ผู้เรียนมีผลการประเมินทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมสูงขึ้น อยู่ในระดับดีขึ้นไปร้อยละ 100 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
4. ผู้เรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ SMILE เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ด้านทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ มีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับแรก คือ ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้แสดงความคิด และออกแบบนวัตกรรม ("X" ̅= 4.87) เทคนิคการสอนหลากหลายเหมาะสมกับกิจกรรมการเรียนรู้ ("X" ̅= 4.85) ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ร่วมกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ("X" ̅= 4.85) และส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาการสื่อสารเรื่องราวต่อผู้อื่น ("X" ̅= 4.84)