การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD
โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น ประกอบหนังสือส่งเสริมการอ่าน“ชุดท่องเที่ยวเมืองกำแพงเพชร” เพื่อส่งเสริม
ความสามารถด้านการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้วิจัย นางเนาวรัตน์ ชมภูรัตน์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 1
ปีที่วิจัย 2565 - 2566
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับ เทคนิค KWL Plus โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น ประกอบหนังสือส่งเสริมการอ่าน “ชุดท่องเที่ยวเมืองกำแพงเพชร”เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสภาพปัญหาและความต้องการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับ เทคนิค KWL Plus โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น ประกอบหนังสือส่งเสริมการอ่าน “ชุดท่องเที่ยวเมืองกำแพงเพชร” เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับ เทคนิค KWL Plus โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น ประกอบหนังสือส่งเสริมการอ่าน “ชุดท่องเที่ยวเมืองกำแพงเพชร” เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับ เทคนิค KWL Plus โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น ประกอบหนังสือส่งเสริมการอ่าน “ชุดท่องเที่ยวเมืองกำแพงเพชร” เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสารที่เกี่ยวข้อง แบบสัมภาษณ์ และแบบสอบถาม คู่มือประกอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับ เทคนิค KWL Plus โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น ประกอบหนังสือส่งเสริมการอ่าน “ชุดท่องเที่ยวเมืองกำแพงเพชร” เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 แบบทดสอบวัดความสามารถอ่านจับใจความ จำนวน 30 ข้อ แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์และสถิติที่ใช้ในการหาประสิทธิภาพ ใช้สูตร E1/E2 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t –test) แบบไม่อิสระ (Dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลสภาพปัจจุบัน สภาพปัญหาและความต้องการสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ได้ข้อสรุปว่า นักเรียนขาดนิสัยรักการอ่าน และเมื่อนักเรียนอ่านเรื่องแล้วไม่เข้าใจเนื้อเรื่อง อ่านไม่เข้าใจในสาระสำคัญของเรื่องที่อ่าน ไม่สามารถตอบคำถาม จับประเด็นสำคัญ สรุปความ คิดวิเคราะห์เรื่องที่อ่าน และสรุปความรู้และข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่านไม่ได้ ไม่มีนิสัยรักการอ่าน มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อหนังสือ ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ความคิดอย่างเป็นขั้นตอน มีปัญหาในการเชื่อมโยงความรู้ เขียนสื่อความจากเรื่องไม่ได้ ปัญหาครูผู้สอนได้แก่ ครูผู้สอนขาดการนำสื่อการเรียนการสอนที่สามารถสร้างและเร้าความสนใจในการเรียน มาใช้จัดการเรียนรู้และขาดการจัดการเรียนรู้จากเทคนิคการสอนที่หลากหลาย และจัดการเรียนรู้ที่ไม่ส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนในเรื่องเกี่ยวกับท้องถิ่นตนเอง ครูควรส่งเสริมให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน และนำเทคนิคการสอนที่หลากหลาย เน้นให้นักเรียนได้เรียนหรือทำงานร่วมกันและได้พัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มความสามารถและควรส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนในเรื่องเกี่ยวกับท้องถิ่นตนเอง ผลการสัมภาษณ์ครูผู้สอนที่เกี่ยวข้องพบว่าสาระที่ควรปรับปรุงและพัฒนาผู้เรียน คือสาระการอ่าน ผลการศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบได้ข้อสรุปว่าทฤษฎีการเรียนแบบร่วมมือ เทคนิค STAD การจัดการเรียนรู้เทคนิค KWL Plus
2. ผลพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับ เทคนิค KWL Plus ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 องค์ประกอบ คือ หลักการและวัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนรู้ และ ข้อเสนอแนะในการนำรูปแบบไปใช้ องค์ประกอบกระบวนการเรียนรู้ มี 5 ขั้น คือขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมความพร้อม ขั้นที่ 2 ขั้นเรียนรู้สู่การคิด มีกิจกรรมย่อย 3 ขั้น ดังนี้ 1) กิจกรรมก่อนอ่าน 2) กิจกรรมระหว่างอ่าน 3) กิจกรรมหลังอ่าน ขั้นที่ 3 กิจกรรมร่วมกันเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ขั้นสรุป และขั้นที่ 5 ขั้นประเมินผล และมอบรางวัล
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับ เทคนิค KWL Plus โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น ประกอบหนังสือส่งเสริมการอ่าน “ชุดท่องเที่ยวเมืองกำแพงเพชร”เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
3.1 รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับ เทคนิค KWL Plus โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น ประกอบหนังสือส่งเสริมการอ่าน “ชุดท่องเที่ยวเมืองกำแพงเพชร”เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.65/84.91 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
3.2 ความสามารถด้านการอ่านจับใจความของนักเรียนหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับ เทคนิค KWL Plus โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น ประกอบหนังสือส่งเสริมการอ่าน “ชุดท่องเที่ยวเมืองกำแพงเพชร”เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับ เทคนิค KWL Plus โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น ประกอบหนังสือส่งเสริมการอ่าน “ชุดท่องเที่ยวเมืองกำแพงเพชร”เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่าหลังการใช้รูปแบบนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับ เทคนิค KWL Plus โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น ประกอบหนังสือส่งเสริมการอ่าน “ชุดท่องเที่ยวเมืองกำแพงเพชร”เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่2 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.83 และผู้เกี่ยวข้องร่วมวิพากษ์รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เห็นว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้ มีความเหมาะสมกับผู้เรียน สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถด้านการอ่านจับใจความ