ผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หน่วยระบบร่างกายสำหรับน
ชื่อผลงาน ผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หน่วยระบบร่างกายสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเขาแดงกุศลวิทยา
ชื่อผู้วิจัย นางผะอบ สุวรรณรัตน์
หน่วยงาน โรงเรียนเขาแดงกุศลวิทยา
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา สตูล
ปีที่พิมพ์ 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หน่วยระบบร่างกายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หน่วย ระบบร่างกาย ประชากรคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนเขาแดงกุศลวิทยา อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล จำนวน 22 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จำนวน 5 ชุดได้แก่ ชุดที่ 1. ระบบหายใจ ชุดที่ 2. ระบบขับถาย ชุดที่ 3. ระบบหมุนเวียนเลือด ชุดที่ 4. ระบบประสาทและ ชุดที่ 5. ระบบสืบพันธุ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยระบบร่างกายสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และคู่มือครูประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์หน่วย ระบบร่างกาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 18 แผน เวลา 18 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบระหว่างเรียน จำนวน 50 ข้อ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อที่มีค่าความยากง่าย ตั้งแต่ 0.37 – 0.63 และมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.33 – 0.60 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.78 สถิติที่ใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเชื่อมั่น ค่าความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์ ค่าความยากง่าย
ผลจากการวิจัย
1) พบว่าคะแนนเฉลี่ยของคะแนนจากการทำแบบทดสอบหลังเรียนของชุดกิจกรรมการเรียนวิทยาศาสตร์ ทั้ง 5 ชุด คิดเป็นร้อยละ 83.09 และคะแนนเฉลี่ยของคะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 82.87 แสดงว่าชุดกิจกรรมการเรียนวิทยาศาสตร์ หน่วยระบบร่างกาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเขาแดงกุศลวิทยา มีประสิทธิภาพ(E1/E2) เท่ากับ 83.09/82.87
2) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนวิทยาศาสตร์ หน่วยระบบร่างกาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเขาแดงกุศลวิทยา มีค่าเฉลี่ย (μ = 10.59) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ = 1.81) และผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่าเฉลี่ย (μ = 24.86) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ = 1.39) ซึ่งมีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
ชื่อผู้วิจัย นางผะอบ สุวรรณรัตน์
หน่วยงาน โรงเรียนเขาแดงกุศลวิทยา
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา สตูล
ปีที่พิมพ์ 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หน่วยระบบร่างกายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หน่วย ระบบร่างกาย ประชากรคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนเขาแดงกุศลวิทยา อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล จำนวน 22 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จำนวน 5 ชุดได้แก่ ชุดที่ 1. ระบบหายใจ ชุดที่ 2. ระบบขับถาย ชุดที่ 3. ระบบหมุนเวียนเลือด ชุดที่ 4. ระบบประสาทและ ชุดที่ 5. ระบบสืบพันธุ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยระบบร่างกายสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และคู่มือครูประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์หน่วย ระบบร่างกาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 18 แผน เวลา 18 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบระหว่างเรียน จำนวน 50 ข้อ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อที่มีค่าความยากง่าย ตั้งแต่ 0.37 – 0.63 และมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.33 – 0.60 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.78 สถิติที่ใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเชื่อมั่น ค่าความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์ ค่าความยากง่าย
ผลจากการวิจัย
1) พบว่าคะแนนเฉลี่ยของคะแนนจากการทำแบบทดสอบหลังเรียนของชุดกิจกรรมการเรียนวิทยาศาสตร์ ทั้ง 5 ชุด คิดเป็นร้อยละ 83.09 และคะแนนเฉลี่ยของคะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 82.87 แสดงว่าชุดกิจกรรมการเรียนวิทยาศาสตร์ หน่วยระบบร่างกาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเขาแดงกุศลวิทยา มีประสิทธิภาพ(E1/E2) เท่ากับ 83.09/82.87
2) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนวิทยาศาสตร์ หน่วยระบบร่างกาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเขาแดงกุศลวิทยา มีค่าเฉลี่ย (μ = 10.59) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ = 1.81) และผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่าเฉลี่ย (μ = 24.86) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ = 1.39) ซึ่งมีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน