การพัฒนาชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล
ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ
ตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ผู้ศึกษา นางสาวณิชากร เทศxxxล
หน่วยงาน โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ
ปี พ.ศ. 2565
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลโดยใช้รูปแบบ
การสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน
ด้วยชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลโดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยชุดแบบฝึกทักษะ
กีฬาฟุตซอล โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ อำเภอ
ขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 38 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา แบ่งเป็น 4 ชนิด คือ 1) ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 14 ชุด มีระดับความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.55 2) แผนการจัดการเรียนรู้ที่เรียนด้วยชุดแบบฝึกทักษะ
กีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 14 แผนการเรียนรู้ มีระดับความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.51 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 25 ถึง .79 และค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .20 ถึง .79 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ .79
4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 20 ข้อ ที่มีค่าอำนาจจำแนก รายข้อ ตั้งแต่ .202 ถึง .644 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ .813
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติทดสอบ t - test แบบ Dependent Samples (One Sample t-test)
ผลการวิจัยสรุปดังนี้
1. ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 85.96/90.20
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน
โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
มีค่าเท่ากับ 0.7821 คิดเป็นร้อยละ 78.21
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
มีความพึงพอใจค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 4.50 )
สรุปผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และมีความพึงพอใจที่ดีต่อการเรียนวิชาฟุตซอลมากยิ่งขึ้น
อันเนื่องมาจากนักเรียนมีความสนใจและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และปฏิบัติตามขั้นตอนแต่ละขั้นตอนได้ ดังนั้นผู้ศึกษาจึงพัฒนาชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตโดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับครูใช้จัดการเรียนรู้ในวิชาพลศึกษาในการปรับปรุงการจัดการเรียนรู้เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาศาสตร์
ทางพลศึกษาและศาสตร์ที่เกี่ยวข้องซึ่งเชื่อมโยงการสอนทักษะปฏิบัติ พัฒนาผลสัมฤทธิ์และทักษะความสามารถด้านกีฬาฟุตซอลต่อไป
ตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ผู้ศึกษา นางสาวณิชากร เทศxxxล
หน่วยงาน โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ
ปี พ.ศ. 2565
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลโดยใช้รูปแบบ
การสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน
ด้วยชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลโดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยชุดแบบฝึกทักษะ
กีฬาฟุตซอล โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ อำเภอ
ขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 38 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา แบ่งเป็น 4 ชนิด คือ 1) ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 14 ชุด มีระดับความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.55 2) แผนการจัดการเรียนรู้ที่เรียนด้วยชุดแบบฝึกทักษะ
กีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 14 แผนการเรียนรู้ มีระดับความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.51 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 25 ถึง .79 และค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .20 ถึง .79 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ .79
4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 20 ข้อ ที่มีค่าอำนาจจำแนก รายข้อ ตั้งแต่ .202 ถึง .644 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ .813
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติทดสอบ t - test แบบ Dependent Samples (One Sample t-test)
ผลการวิจัยสรุปดังนี้
1. ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 85.96/90.20
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน
โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
มีค่าเท่ากับ 0.7821 คิดเป็นร้อยละ 78.21
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
มีความพึงพอใจค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 4.50 )
สรุปผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตซอลขั้นพื้นฐาน โดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และมีความพึงพอใจที่ดีต่อการเรียนวิชาฟุตซอลมากยิ่งขึ้น
อันเนื่องมาจากนักเรียนมีความสนใจและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และปฏิบัติตามขั้นตอนแต่ละขั้นตอนได้ ดังนั้นผู้ศึกษาจึงพัฒนาชุดแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตโดยใช้รูปแบบการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับครูใช้จัดการเรียนรู้ในวิชาพลศึกษาในการปรับปรุงการจัดการเรียนรู้เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาศาสตร์
ทางพลศึกษาและศาสตร์ที่เกี่ยวข้องซึ่งเชื่อมโยงการสอนทักษะปฏิบัติ พัฒนาผลสัมฤทธิ์และทักษะความสามารถด้านกีฬาฟุตซอลต่อไป