การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL
ชื่อเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย นงลักษณ์ จูมสีมา
หน่วยงาน โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีที่พิมพ์ 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์1) เพื่อหาประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียวสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อหาประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์
ปัญหาแบบ IDEAL ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 5) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการศึกษาข้อมูล ได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.77/75.83 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 75/75
2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 78.15/75.63 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 75/75
3. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.6513 หรือคิดเป็นร้อยละ 65.13
4. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.6526 หรือคิดเป็นร้อยละ 65.26
5. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก
ผู้วิจัย นงลักษณ์ จูมสีมา
หน่วยงาน โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีที่พิมพ์ 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์1) เพื่อหาประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียวสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อหาประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์
ปัญหาแบบ IDEAL ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 5) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการศึกษาข้อมูล ได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.77/75.83 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 75/75
2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 78.15/75.63 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 75/75
3. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.6513 หรือคิดเป็นร้อยละ 65.13
4. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สมการเชิงตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.6526 หรือคิดเป็นร้อยละ 65.26
5. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบ IDEAL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก