เผยแพร่ผลงาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางสาวนิภาวรรณ ขวัญเมือง
ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาลเทศบาล ๑ วัดละไม เทศบาลนครเกาะสมุย
ปีการศึกษา 2565
บทคัดย่อ
รายงานผลการใช้ชุดการเรียนรู้ “พุทธศาสนาน่ารู้” กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อพัฒนา
ชุดการเรียนรู้ “พุทธศาสนาน่ารู้” กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ “พุทธศาสนาน่ารู้” กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนระหว่างคะแนนสอบก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ “พุทธศาสนาน่ารู้” กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ ชุดการเรียนรู้ “พุทธศาสนาน่ารู้” กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาล ๑ วัดละไม สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียนจำนวน 33 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการ สุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) ชุดการเรียนรู้ “พุทธศาสนาน่ารู้” กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 ชุด คือ ชุดที่ 1 เรื่อง ความสำคัญของพระพุทธศาสนาและพุทธประวัติ ชุดที่ 2 เรื่อง หลักธรรมนำความสุข ชุดที่ 3 เรื่อง พุทธสาวกและชาดก ชุดที่ 4 เรื่อง พุทธศาสนิกชนที่ดี ชีวีมีสุข และทำจิตใจให้ผ่องใสบริสุทธิ์ 2) แผนการจัด การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 22 แผน รวมเวลา 22 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง พระพุทธศาสนา แบบเลือกตอบ ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ “พุทธศาสนาน่ารู้” กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติ ที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติทดสอบที ผลการวิจัยพบว่า 1) ชุดการเรียนรู้ “พุทธศาสนาน่ารู้” กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.61/81.25 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 2) ดัชนีประสิทธิผลของชุดการเรียนรู้ “พุทธศาสนาน่ารู้” กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ 0.6144 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียน ร้อยละ 61.44 3) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยการใช้ชุดการเรียนรู้ “พุทธศาสนาน่ารู้” กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) ความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ “พุทธศาสนาน่ารู้” กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมาก