การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบ MAPEO Model เพื่อส
ร่างกายของเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นางสาวพิมพ์ใจ แสงสอน
ปี 2565
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบ MAPEO Model สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบ MAPEO Model สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 คือ 2.1) เพื่อเปรียบเทียบการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียน ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบ MAPEO Model 2.2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียน ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบ MAPEO Model 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ด้วยรูปแบบ MAPEO Model กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 โรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครภูเก็ต ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 นักเรียนจำนวน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบ MAPEO Model สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดการคิดวิเคราะห์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ที่ใช้การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบ MAPEO Model เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ร่างกายของเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย หาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test) วิธีการดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1. การสร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบ MAPEO Model เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ร่างกายของเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2. การศึกษาคุณภาพและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบ MAPEO Model เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ร่างกายของเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3. การศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบ MAPEO Model เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ร่างกายของเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผลการวิจัยพบว่า
1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบ MAPEO Model สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 3.80 – 4.80 และแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบ MAPEO Model เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ร่างกายของเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคุณภาพในระดับดี
2) ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบ MAPEO Model สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีดังนี้
2.1) ผลการเปรียบเทียบการคิดวิเคราะห์ก่อนเรียนและหลังเรียน วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง ร่างกายของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง ร่างกายของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.3) ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ด้วยรูปแบบ MAPEO Model พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก คือ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.45 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.03