การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาครูฯ
ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน
ผู้วิจัย นางสาวสุปราณี สงวนรัษฎ์
ปีที่ทำวิจัย 2565
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน 2) ทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน และ 3) ประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกข้อเสนอแนะประเด็นต่าง ๆ ตามหัวข้อของรูปแบบ เทปบันทึกการประชุม แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจ
วิธีดำเนินการวิจัยมี 3 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน โดยการศึกษาวิเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบความตรง และความเหมาะสมของรูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน โดยการจัดประชาพิจารณ์ ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ ตัวแทนครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง และตัวแทนนักเรียน รวมจำนวนผู้เข้าร่วมประชาพิจารณ์ 50 คน 2) การทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน โดยดำเนินการทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนภายในอำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี 3) ประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน รวมจำนวนทั้งสิ้น 386 คน
ผลการวิจัยพบว่า
1. การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน พบว่า มีความตรงและความเหมาะสมมากโดยบูรณาการ 4 กลยุทธ์ ได้แก่ 1) การพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน (Teacher development : T) 2) การส่งเสริมครูด้านการใช้เทคโนโลยีประกอบการสอน (Teacher develop-ment of using technology for teaching : T) 3) ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional learning community : P) และ 4) การนิเทศภายในสถานศึกษา (Class visit/supervision in the school : C) มีชื่อว่า TTPC Model
2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน พบว่า การพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน (TTPC Model) ทำให้ครูมีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอน สามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างหลากหลาย โดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ มีการพัฒนา และใช้สื่อประกอบการเรียนการสอน นำกระบวนการวิจัยในชั้นเรียนมาเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเรียนการสอน และสามารถนำผลการวิจัยไปใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาวิธีการเรียนรู้ การพัฒนาสื่อนวัตกรรมและแหล่งเรียนรู้ และการส่งเสริมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการจัดการศึกษา ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามความสนใจ และความถนัดของตนเอง นักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง ได้คิด ได้ลงมือปฏิบัติจริง นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผ่านเกณฑ์ที่ทางโรงเรียนกำหนด และมีทักษะการแก้ปัญหาที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิม
3. ผลการประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน (TTPC Model) พบว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเทศบาลตำบลโนนสะอาดอยู่ในระดับมาก