รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยวิธ
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นาฏกนิษฐ์ ทิศทะษะ
ปีการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยวิธีสอน KWL- Plus A สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนา และหาประสิทธิภาพ
ของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยวิธีสอน KWL- Plus A สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของ
แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยวิธีสอน KWL- Plus A สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและ หลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยวิธีสอน KWL- Plus A สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยวิธีสอน KWL- Plus A
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการพัฒนาแบบฝึกทักษะครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนหนองหงส์พิทยาคม จำนวน 40 คน ซึ่งได้มาด้วยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ใช้เวลาในการทดลอง 16 ชั่วโมง ทั้งนี้ไม่รวมเวลาที่ใช้ที่ใช้ในการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เครื่องมือที่ใช้ใช้ในการศึกษาได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยวิธีสอน KWL- Plus A จำนวน 8 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยวิธีสอน KWL- Plus A จำนวน 8 แผน ๆ ละ 2 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากอยู่ระหว่าง 0.26 – 0.80 ค่าอำนาจจำแนก อยู่ระหว่าง 0.20 – 0.64 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.85 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยวิธีสอน KWL- Plus A เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.85 มีวิธีดำเนินการ 1) สร้างและหาคุณภาพเครื่องมือ 2) เก็บรวบรวมข้อมูล และ 3) วิเคราะห์ข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test (Dependent Sample)
ผลการศึกษาในครั้งนี้ พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยวิธีสอน
KWL- Plus A สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างขั้นมีประสิทธิภาพ 82.72/89.75
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยวิธีสอน
KWL- Plus A สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 0.8231 แสดงว่าหลังการใช้แบบฝึกฯ นักเรียนมีค่าคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 82.31
3. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน
ภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยวิธีสอน KWL- Plus A สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่ามีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01
4. นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยวิธี
สอน KWL- Plus A สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยวิธีสอนKWL- Plus A อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56
โดยสรุป แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยวิธีสอน KWL- Plus A สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเหมาะสมตามเกณฑ์ จึงควรส่งเสริมให้ครูนำไปใช้ ทุก ๆ ครั้ง ที่มีการจัดการเรียนรู้ ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการสอนอ่านโดยวิธีสอนKWL- Plus A ไม่ทำให้นักเรียนสับสน มีขั้นตอนการเรียนรู้ที่ชัดเจน และกิจกรรมมการจัดการเรียนรู้ทุกขั้นตอนทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้อย่างมีความสุข ซึ่งครูผู้สอนควรเสริมเนื้อหาที่ยากขึ้นและศึกษาค้นหาหรือพัฒนาบทอ่านที่มีความทันสมัยต่อไป