LASTEST NEWS

23 พ.ย. 2567วิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรี รับสมัครครูอัตราจ้าง 3 อัตรา ตั้งแต่บัดนี้ - 29 พ.ย.2567 23 พ.ย. 2567โรงเรียนตากพิทยาคม รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกวิทยาศาสตร์ จำนวน 1 อัตรา ตั้งแต่ 23 พ.ย.-16 ธ.ค.2567 23 พ.ย. 2567สพป.อำนาจเจริญ รับสมัครพนักงานราชการ ตำแหน่งพี่เลี้ยง 5 อัตรา วุฒิม.3-ปวส.ทุกสาขา เงินเดือน 10,430-13,800 บาท สมัครระหว่างวันที่ 2-12 ธันวาคม 2567 23 พ.ย. 2567สพป.อำนาจเจริญ เปิดสอบพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน 38 อัตรา วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 18,000.-บาท สมัครระหว่างวันที่ 2-12 ธันวาคม 2567 23 พ.ย. 2567#ไม่ต้องผ่านภาค ก กรมทางหลวงชนบท เปิดสอบพนักงานราชการ 111 อัตรา สมัครออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 - 29 พฤศจิกายน 2567 ตลอด 24 ชั่วโมงไม่เว้นวันหยุดราชการ 22 พ.ย. 2567โรงเรียนบ้านผารางวังหม้อ(มิตรประชา) รับสมัครครูผู้สอน วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) 22 พ.ย. 2567สพป.ชัยภูมิ เขต 1 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 6 อัตรา - รายงานตัว 25 พฤศจิกายน 2567 22 พ.ย. 2567สพป.อุดรธานี เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 11 อัตรา - รายงานตัว 9 ธันวาคม 2567 22 พ.ย. 2567สพป.พังงา เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 6 จำนวน 5 อัตรา - รายงานตัว 28 พฤศจิกายน 2567 22 พ.ย. 2567สพป.อุบลราชธานี เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 55 อัตรา - รายงานตัว 9 ธันวาคม 2567

การพัฒนารูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน

usericon

ชื่อเรื่อง    : การพัฒนารูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนนครนอก)

ผู้วิจัย    :    กาญจนา จันทมัตตุการ

ปีการศึกษา    :    2564

บทคัดย่อ :
การพัฒนารูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนนครนอก) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน 2) พัฒนารูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน 3) ทดลองใช้รูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน และ 4) ประเมินและปรับปรุงรับรองรูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน โดยดำเนินการวิจัย 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การวิจัย (Research : R1) เป็นการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสภาพปัจจุบันและปัญหาการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน ระยะที่ 2 การพัฒนา (Development : D1) เป็นการออกแบบและพัฒนารูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน ระยะที่ 3 การวิจัย (Research : R2) เป็นการทดลองใช้รูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน และระยะที่ 4 การพัฒนา (Development : D2) เป็นการประเมินและปรับปรุงรับรองรูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลนครสงขลา จำนวน 5 คน ครูผู้สอนในสังกัดเทศบาลนครสงขลา จำนวน 50 คน ครูผู้สอนในโรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนนครนอก) จำนวน 44 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 80 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 70 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐาน แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างการพัฒนารูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ แบบบันทึกการสนทนากลุ่มย่อย แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และการใช้ประโยชน์ของรูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ แบบบันทึกการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินทักษะการคิดวิเคราะห์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และแบบประเมินความพึงพอใจ รวม 9 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. สภาพปัจจุบันและปัญหาการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( = 2.83, S.D. = 0.67) และโรงเรียนควรมีการพัฒนาครูให้ตระหนักถึงความสำคัญของกระบวนการคิดวิเคราะห์เพื่อให้ผู้เรียนคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาได้ จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน ในสถานการณ์โควิด-19 มีการเปลี่ยนผ่านการจัดการเรียนรู้จากรูปแบบปกติมาเป็นแบบออนไลน์ ทำให้เกิดผลกระทบด้านทักษะการอ่านและการเขียน และจากการสนทนากลุ่มย่อยต่อการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ครูต้องปรับวิธีการจัดการเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญและจำเป็นเพื่อเผชิญการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รุนแรงและคาดไม่ถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. รูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน ประกอบด้วย
2.1 องค์ประกอบของรูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนเพื่อส่งเสริม
ทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ และ 4) ขั้นตอนการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน แบบ “Organizing PLWECE Model” ซึ่งมีขั้นตอนหลัก 6 ขั้น และขั้นตอนย่อย 25 ขั้น ดังนี้ (1) การวางแผนการพัฒนา (Planning to Development Stages : P) (2) การออกแบบการจัดการเรียนรู้ (Learning Design Stages : L) (3) การนำแผนการจัดการเรียนรู้สู่การปฏิบัติ (Work to Active Learning Stages : W) (4) การเสริมสร้างกำลังใจ ความร่วมมือ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Encourage Collaboration and Share Stages : E) (5) การสร้างโอกาสการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง (Create Continuous Learning Stages : C) และ (6) การประเมินผล พัฒนา และการรายงาน (Evaluation Development and Report Stages : E)
2.2 ความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และการใช้ประโยชน์ของ
รูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.09, S.D.= 0.57)
3. การทดลองใช้รูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน ผลการสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ โดยรวมมีความสนใจ ความกระตือรือร้นและการมีส่วนร่วมอยู่ในระดับมาก ( = 4.23, S.D. = 0.60) ผลการบันทึกการจัดการเรียนรู้ด้านการเตรียมการจัดการเรียนรู้ โดยรวมมีความถูกต้อง/ความเหมาะสมในระดับมาก ( = 4.17, S.D. = 0.72) และด้านความถูกต้อง/ความเหมาะสมของการจัดการเรียนรู้ในแต่ละครั้ง โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.34, S.D. = 0.55)
4. การประเมินและปรับปรุงรับรองรูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน ทำให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะการคิดวิเคราะห์อยู่ในระดับดี ( = 7.77, 7.86 S.D. = 0.82, 0.83) ส่งผลให้ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนมีความพึงพอใจเกี่ยวกับความเหมาะสม/การนำไปใช้ได้จริงต่อรูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.27, S.D. = 0.67) และมีความคิดเห็นต่อการปรับปรุงรูปแบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนแบบ “Organizing PLWECE Model” ว่าควรมีการปรับปรุงในแต่ละขั้นตอนเพียงเล็กน้อย
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^