การประเมินโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทย
ชื่อเรื่องวิจัย การประเมินโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทย
ของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่
ผู้วิจัย นางดวงจันทร์ เจียงคง
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา
สถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่
ปี พ.ศ. 2564
บทคัดย่อ
การประเมินครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินสภาวะแวดล้อมของโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ 2) ประเมินปัจจัยเบื้องต้นของโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ 3) ประเมินกระบวนการในการดำเนินโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ และ 4) ประเมินผลผลิตในการดำเนินโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ได้จากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 161 คน ได้แก่ ผู้บริหาร จำนวน 1 คน ครู จำนวน 20 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน/ตัวแทนชุมชน จำนวน 13 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ `1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 127 คน การประเมินโครงการใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมิน พบว่า
1. ด้านสภาวะแวดล้อมของโครงการเกี่ยวกับความเหมาะสมการประเมินด้านจุดประสงค์สอดคล้องกับนโยบายของรัฐและโรงเรียน และสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา พบว่า โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน
ที่กำหนดทุกรายข้อ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า รายข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ โรงเรียนเป็นแบบอย่างในการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทย
2. ด้านปัจจัยเบื้องต้นโครงการเกี่ยวกับความพร้อมหรือความเพียงพอเกี่ยวกับบุคลากร งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ อาคารสถานที่ ระยะเวลา และการจัดการตามความคิดเห็นของครู พบว่า โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดทุกรายข้อ และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า รายข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ บุคลากรในโรงเรียนมีความสนใจ มีความรู้ความสามารถและศักยภาพในการดำเนินโครงการ
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการโครงการเกี่ยวกับความพร้อมหรือความเพียงพอในการดำเนินโครงการในด้านการเตรียมการ การดำเนินการ การวัดประเมินผล ตามความคิดเห็นของครูพบว่า โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมินทุกระยะ และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ารายข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ แผนงาน/โครงการมีความสอดคล้องกับนโยบายด้านการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของโรงเรียน
4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ดังนี้
4.1 การประเมินด้านผลผลิตในเรื่องประสิทธิภาพของการประเมินโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ จากกิจกรรม 3 กิจกรรมหลักคือ กิจกรรมแต่งกายชุดวัฒนธรรมไทยและมีมารยาทงดงามแบบไทย กิจกรรมส่งเสริมประเพณีศิลปวัฒนธรรมไทย และกิจกรรมการใช้ภาษาไทยและการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ให้เหมาะสมในวิถีชีวิตของชุมชน ตามความคิดเห็นของครูโดยภาพรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาทั้ง 3 กิจกรรมหลัก พบว่า กิจกรรมแต่งกายชุดวัฒนธรรมไทยและมีมารยาทงดงามแบบไทย มีค่าเฉลี่ยสูงสุด
4.2 ผลการประเมินความพึงพอใจของครูต่อโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน/ตัวแทนชุมชน โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ทุกรายข้อผ่านเกณฑ์การประเมินทุกรายข้อ รายข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ นักเรียนมีมารยาทงดงามไหว้สวยแบบไทยด้วยตนเอง มีพฤติกรรมที่แสดงออกด้วยความเต็มใจโดยไม่มีใครบังคับ
4.3 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ ตามความคิดเห็นของนักเรียน โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ทุกข้อมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก รายข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ความรู้ที่ได้จากการการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ให้เหมาะสมในวิถีชีวิตประจำวันได้ ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด
4.4 ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครองต่อโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ ตามความคิดเห็นของผู้ปกครอง โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ทุกข้อมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด
ของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่
ผู้วิจัย นางดวงจันทร์ เจียงคง
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา
สถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่
ปี พ.ศ. 2564
บทคัดย่อ
การประเมินครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินสภาวะแวดล้อมของโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ 2) ประเมินปัจจัยเบื้องต้นของโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ 3) ประเมินกระบวนการในการดำเนินโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ และ 4) ประเมินผลผลิตในการดำเนินโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ได้จากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 161 คน ได้แก่ ผู้บริหาร จำนวน 1 คน ครู จำนวน 20 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน/ตัวแทนชุมชน จำนวน 13 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ `1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 127 คน การประเมินโครงการใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมิน พบว่า
1. ด้านสภาวะแวดล้อมของโครงการเกี่ยวกับความเหมาะสมการประเมินด้านจุดประสงค์สอดคล้องกับนโยบายของรัฐและโรงเรียน และสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษา พบว่า โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน
ที่กำหนดทุกรายข้อ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า รายข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ โรงเรียนเป็นแบบอย่างในการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทย
2. ด้านปัจจัยเบื้องต้นโครงการเกี่ยวกับความพร้อมหรือความเพียงพอเกี่ยวกับบุคลากร งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ อาคารสถานที่ ระยะเวลา และการจัดการตามความคิดเห็นของครู พบว่า โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดทุกรายข้อ และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า รายข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ บุคลากรในโรงเรียนมีความสนใจ มีความรู้ความสามารถและศักยภาพในการดำเนินโครงการ
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการโครงการเกี่ยวกับความพร้อมหรือความเพียงพอในการดำเนินโครงการในด้านการเตรียมการ การดำเนินการ การวัดประเมินผล ตามความคิดเห็นของครูพบว่า โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมินทุกระยะ และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ารายข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ แผนงาน/โครงการมีความสอดคล้องกับนโยบายด้านการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของโรงเรียน
4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ดังนี้
4.1 การประเมินด้านผลผลิตในเรื่องประสิทธิภาพของการประเมินโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ จากกิจกรรม 3 กิจกรรมหลักคือ กิจกรรมแต่งกายชุดวัฒนธรรมไทยและมีมารยาทงดงามแบบไทย กิจกรรมส่งเสริมประเพณีศิลปวัฒนธรรมไทย และกิจกรรมการใช้ภาษาไทยและการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ให้เหมาะสมในวิถีชีวิตของชุมชน ตามความคิดเห็นของครูโดยภาพรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาทั้ง 3 กิจกรรมหลัก พบว่า กิจกรรมแต่งกายชุดวัฒนธรรมไทยและมีมารยาทงดงามแบบไทย มีค่าเฉลี่ยสูงสุด
4.2 ผลการประเมินความพึงพอใจของครูต่อโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน/ตัวแทนชุมชน โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ทุกรายข้อผ่านเกณฑ์การประเมินทุกรายข้อ รายข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ นักเรียนมีมารยาทงดงามไหว้สวยแบบไทยด้วยตนเอง มีพฤติกรรมที่แสดงออกด้วยความเต็มใจโดยไม่มีใครบังคับ
4.3 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ ตามความคิดเห็นของนักเรียน โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ทุกข้อมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก รายข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ความรู้ที่ได้จากการการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ให้เหมาะสมในวิถีชีวิตประจำวันได้ ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด
4.4 ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครองต่อโครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยของนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเชียงใหม่ ตามความคิดเห็นของผู้ปกครอง โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ทุกข้อมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด