การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ผู้วิจัย นายวิทูรย์ ชินภักดี
เรื่อง การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอาจสามารถ
สังกัด โรงเรียนอนุบาลเมืองอาจสามารถ
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 2
ปีที่รายงาน 2565
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอาจสามารถ ใช้แนวคิดการประเมินโดยใช้รูปแบบการประเมินซีโป (CPO) มีกรอบในการประเมินเป็น 3 ด้าน ได้แก่ ปัจจัยพื้นฐานด้านสภาวะแวดล้อม ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียนและครู จำนวน 47 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 203 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 203 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 3 ชุด ประกอบด้วย แบบสอบถามสำหรับผู้บริหารโรงเรียนและครู แบบสอบถามสำหรับนักเรียน และแบบสอบถามสำหรับผู้ปกครองนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยปรากฏว่า
(1) การประเมินปัจจัยพื้นฐานด้านสภาวะแวดล้อมของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลเมืองอาจสามารถ โดยภาพรวมและรายประเด็นมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน
(2) การประเมินด้านกระบวนการของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลเมืองอาจสามารถ โดยภาพรวมและรายประเด็นมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน
(3) การประเมินด้านผลผลิตของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลเมืองอาจสามารถ โดยภาพรวมและรายประเด็นมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน
เรื่อง การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอาจสามารถ
สังกัด โรงเรียนอนุบาลเมืองอาจสามารถ
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 2
ปีที่รายงาน 2565
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอาจสามารถ ใช้แนวคิดการประเมินโดยใช้รูปแบบการประเมินซีโป (CPO) มีกรอบในการประเมินเป็น 3 ด้าน ได้แก่ ปัจจัยพื้นฐานด้านสภาวะแวดล้อม ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียนและครู จำนวน 47 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 203 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 203 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 3 ชุด ประกอบด้วย แบบสอบถามสำหรับผู้บริหารโรงเรียนและครู แบบสอบถามสำหรับนักเรียน และแบบสอบถามสำหรับผู้ปกครองนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยปรากฏว่า
(1) การประเมินปัจจัยพื้นฐานด้านสภาวะแวดล้อมของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลเมืองอาจสามารถ โดยภาพรวมและรายประเด็นมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน
(2) การประเมินด้านกระบวนการของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลเมืองอาจสามารถ โดยภาพรวมและรายประเด็นมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน
(3) การประเมินด้านผลผลิตของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลเมืองอาจสามารถ โดยภาพรวมและรายประเด็นมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน